แสนเศร้า บ้านเก่าผุพังกำลังถูกยึด ลูกต้องเข้ามหาลัย เพื่อนบ้านต้อง ช่วยสมทบค่าเทอม

เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2565 มีครอบครัวใหญ่ฐานะยากจน มีรายได้น้อย แถมบ้านยังค้างจำนองใกล้ถูกยึด ส่วนลูกสาวคนโตเรียนมหาวิทยาลัย ต้องกู้เงินและชาวบ้านช่วยสมทบค่าเทอม ส่งค่าใช้จ่ายได้แค่อาทิตย์ละ 500 บาท ลูกสาวกับหลานเรียนระดับมัธยมอีก 2 คน ยังมีลูกเล็กกับหลานเล็กๆ อีก แถมพ่อแม่ก็แก่เฒ่าต้องดู ส่วนตัวเองมีอาชีพแค่หาปลาหาหอยเป็นรายได้เท่านั้น

ณ.บ้านหลังดังกล่าวอยู่ที่ บ้านเลขที่ 180/3 หมู่ 7 ต.ถ้ำกระต่ายทอง อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร พบ นายไพรวัลย์ ธนานันท์ อายุ 40 ปี พร้อมครอบครัวรวม 7 คน อาศัยอยู่ในบ้านทรุดโทรม โดยมี น.ส.เพชรา มะโนรส อายุ 39 ปี ภรรยาของ นายไพรวัลย์ และลูกสาวกับลูกชาย

ซึ่งยังมีหลานสาวซึ่งเป็นลูกของน้องชายที่ครอบครัวเลิกกันไปมาอาศัยอยู่ด้วย รวมทั้งพ่อกับแม่ที่อายุมากแล้ว สภาพบ้านฝาบ้านใช้สังกะสีเก่าๆ และแผ่นวัสดุเก่าพุพังมาติดปิดไว้ ที่นอนของลูกสาวไม่มีหน้าต่าง ซึ่งอันตรายมาก คนสามารถปีนเข้ามาได้ง่ายๆ และลูกสาวหลานสาวโตเป็นสาวแล้วด้วย

ส่วนหลังคาบ้านก็พุพังเวลาฝนตกก็รั่ว ข้าวของทุกอย่างรวมทั้งที่นอนภายในบ้านก็เก่า โดยแบ่งพื้นที่ภายในบ้านเป็นที่นอนของ นายไพรวัลย์กับภรรยา และลูกชายคนเล็ก ส่วนอีกพื้นที่เป็นที่นอนของลูกสาวกับหลาน โดย นายไพรวัลย์ มีอาชีพหาปลา หาหอยมาขายเป็นรายได้หลัก รวมทั้งทำงานทุกอย่างที่ได้เงินมาเป็นค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูครอบครัว

นายไพรวัลย์ เปิดเผยว่า… ครอบครัวของตนมีปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง คือเรื่องของที่ดินเกือบๆ 1 ไร่ซึ่งปลูกบ้านอยู่ ได้นำไปจำนองไว้เป็นเงิน 40,000 บาท ผ่านมานานเวลานี้รวมทั้งดอกเบี้ยด้วยก็คงเป็นหนี้ไม่ต่ำกว่า 7-8 หมื่นบาท ซึ่งตนไม่มีปัญญาไปไถ่ถอนออกมาได้ ซึ่งอาจจะถูกฟ้องยึดที่ในไม่ช้านี้

อีกปัญหาคือเรียนการเรียนของลูกสาวคนโต ซึ่งเรียนเก่งจนสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยพะเยา คณะสาธารณสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อม ปี 1 แต่ช่วงแรกไม่มีค่าเทอม ตนต้องไปขอกู้เงินมาเป็นค่าเทอม โดยมีเพื่อนบ้านช่วยเหลือคนละ 500 บาทบ้าง 1,000 บาทบ้าง จนพอค่าเทอมครั้งแรก ส่วนค่าใช้จ่ายต่างๆ ตนโอนไปอาทิตย์ละ 500-700 บาท แล้วแต่ว่าอาทิตย์หาเงินได้เท่าไหร่ ซึ่งลูกสาวก็รู้จักใช้อย่างประหยัด

นอกจากนั้นยังมีลูกสาวที่เรียนชั้น ม.3 กับหลานสาวที่เรียนชั้น ม.1 โรงเรียนพรานกระต่ายพิทยาคม ที่ต้องส่งเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ จิปาถะอีก 2 คน รวมไปถึงค่าใช้จ่ายภายในบ้านต่างๆ อีก ดังนั้นจึงต้องขยันออกหาปลาและหอยโข่งหอยขมมาขาย ซึ่งต้องลงอยู่ในน้ำตลอดทุกวันจนขาทั้ง 2 ข้างถูกน้ำกัดเท้าจนเป็นแผลทั่วไป

About the author

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *