ในสายตาของประชาชนหลาย ๆ คนคงคาดว่ามะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักมักมีความเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมที่ไม่ดี เช่น การรับประทานอาหารแปรรูป การสูบบุหรี่ และการดื่มสุรา อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงคนหนึ่งที่มักจะทานอาหารเบาๆ และไม่สูบบุหรี่หรือดื่มเหล้า แต่กลับได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 4
โดยรายงาน นพ.เฉิน ซินเหม่ย แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวกล่าวในรายการ Health 2.0 ว่าเมื่อผู้ป่วยรายนี้มาพบแพทย์ เนื่องจากต้องการรับการบำบัดด้วยโภชนาการและการปรับโภชนาการของตนเอง โดยไม่คาดคิด เธอกลับได้รับข่าวร้ายแทน เพราะผู้ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 4
ในระหว่างกระบวนการนี้ คนไข้หญิงยังตั้งคำถามกับตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่า เธอทำอะไรผิด เพราะปกติเธอไม่กินเนื้อแดงหรือผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์แปรรูป และเธอก็ไม่ทำพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอร์ ดังนั้น เธอจึงไม่รู้ว่า เพราะอะไรถึงทำให้เกิดมะเร็งภายในร่างกายของเธอ
อย่างไรก็ตาม หลังจากการปรึกษาแพทย์ ในที่สุด นพ.เฉิน ซินเหม่ยยืนยันว่า แม้จะมีไม่ดิ่มสุรา สูบบุหรี่ หรือทานเนื้อแดงที่เป็นนิสัยการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ แต่ผู้ป่วยหญิงยังมีพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพเล็กน้อยอย่าง เธอจะดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล 1 ถึง 2 แก้วทุกวันอย่างแน่นอน
นพ.เฉิน ซินเหม่ยอธิบายเพิ่มเติมว่า โรคเมตาบอลิซึมมีสาเหตุหลายประการ รวมถึงการกินเนื้อสัตว์มาก ๆ และน้ำตาลสูงอาจทำให้เกิดภาวะนี้ได้ ความสัมพันธ์ระหว่างน้ำตาลกับมะเร็งมีการพูดคุยกันมานานหลายปี
นพ.เฉิน ซินเหม่ยกล่าวว่า หากคุณบริโภคน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ในปริมาณมาก น้ำตาลในเลือดก็จะเพิ่มขึ้นมากเกินไปและทำให้เกิดการดื้อต่ออินซูลินได้ง่าย สถานการณ์นี้ยังเกี่ยวข้องกับมะเร็งด้วย นี่เป็นกลไกแรก กลไกที่ 2 คือ การบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำตาลสูงมากในระยะยาวจะทำให้เกิดการสะสมของไขมัน เมื่อไขมันสะสมในปริมาณมากก็จะทำให้เกิดอาการอักเสบเรื้อรังในร่างกายซึ่งเกี่ยวข้องกับมะเร็งด้วย
ดังนั้น นพ.เฉิน ซินเหม่ย แนะนำว่าผู้ป่วยหญิงควรเปลี่ยนหรือหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง โดยสามารถเริ่มต้นด้วยลดปริมาณน้ำตาลและลดความหวานที่คุ้นเคยลงได้ 20% จากนั้นค่อ ยๆ เอาชนะปัญหานี้ด้วยการทานไม่หวานก็จะช่วยลดความเสี่ยงอื่นๆ ได้
