อุทาหรณ์ ลูกสาวช็อกหายใจไม่ออก หมอคาดกินขนมผสมกัญชา พ่อเผยแปลกใจตั้งแต่ตอนซื้อ

คุณแม่ท่านหนึ่งได้ออกมาเล่าถึงอุทาหรณ์เกี่ยวกับการซื้ออาหารตามตลาดให้ลูกกิน จนส่งผลให้ลูกเกิดอาการช็อกเฉียบพลัน โดยได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Pattamaporn Chandrabhaya ว่า… ไม่เคยคิดว่าชีวิตลูกจะได้แอดมิตใน ICU 12 พ.ค. 66 หลังจากที่อัณณาเรียนภาษากับคุณครูเสร็จ แม่จะไปส่งครูที่ตลาดบางใหญ่ ทุกครั้งแม่จะแวะซื้ออาหาร ขนม ไปกินกันต่อที่บ้านคุณยายเหมือน

ถึงบ้านคุณยาย กินข้าวเสร็จ เด็กๆ กินขนมกัน โดยมีซูชิ(เจ้าประจำ) โดนัท และขนมโตเกียว(ซื้อบางครั้ง) เริ่มกินประมาณ 2 ทุ่ม กินเสร็จจากบ้านคุณยายก็กลับถึงบ้านอาบน้ำนอน เวลาผ่านไป อยู่ ๆ อัณณาก็กอดแม่แน่นแล้วพูดว่า “หม่ามี๊จ๋าหนูคิดว่าหนูไม่ไหว I have to go to hospital now!! เพราะหัวใจหนูเต้นช้าลง

แม่รู้ว่าลูกไม่ไหวก็รีบเรียกพ่อพาไปโรงพยาบาล ระหว่างทางอัณณาบอกให้แม่นวดหัวใจให้ พอจับดูก็รู้สึกว่าหัวใจเต้นช้าลง มือเท้าเกร็ง พอถึงโรงพยาบาลหมอบอกว่าชีพจรน้องอ่อนมาก หมอให้ยาเพื่อดูอาการและเฝ้าระวังในห้อง ICU เช้ามาคุณหมอให้ความเห็นว่าเป็นอาการช็อกเฉียบพลัน จากแพ้อาหาร แต่ก็แปลกที่ไม่มีผื่นแพ้ให้เห็น หรือเป็นจากสารพิษ

อาการลูกคล้ายคนที่เสพยาเกินขนาดมีอาการต่อระบบหายใจ และหัวใจโดยตรง ถ้าอาหารเป็นพิษต้องมีอาการต่อกระเพาะอาหารและมีไข้ ส่วนโดนสารพิษจะมีอาการอาเจียน แต่อัณณาไม่มีเลยอยู่ดีๆ ก็หายใจไม่ออกและช็อก ทางโรงพยาบาลจึงได้ส่งไปที่สถาบันพิษวิทยาก็ไม่พบสารพิษ อีกข้อสันนิษฐานหนึ่งคือ เป็นสารเสพติด (กัญชา ใบกระท่อม)

ที่เปิดเสรี จนคนไร้จิตสำนึกบางกลุ่ม เอามาใส่ลงในอาหาร หรือ ขนมเพื่อให้ลูกค้าติดใจ โดยที่ไม่ได้แจ้งว่าเป็นขนมเฉพาะ ทางพ่อได้ให้น้ำหนักไปทางสารเสพติด เพราะของอย่างเดียวที่อัณณากินไม่เหมือนคนอื่นคือ ขนมโตเกียว และแปลกที่พออัณณาไปซื้อร้านขอทำให้ใหม่ ทั้งๆ ที่มีขนมทำไว้เยอะมาก พ่อยังมาเล่าว่าร้านเค้าดีนะเห็นเด็กซื้อเลยอยากทำร้อนๆ ให้ ตอนนี้น่าจะเป็นเพราะเค้ารู้แก่ใจว่าขนมเค้าใส่อะไร แต่ด้วยความที่อัณณาผอมและตัวเล็ก สารเลยออกฤทธิ์แรง

คุณหมอแจ้งว่า ถ้าจะตรวจสารเสพติดต้องภายใน 4 ชม.หลังได้รับสาร เราจึงได้แค่สงสัยไม่อาจมีหลักฐานไปเอาผิดกับร้านได้ สุดท้ายนี้แม่ขอฝากเตือน แม่ๆ ทุกบ้าน เราคงต้องใช้ชีวิตยากกว่าทุกครั้ง ไม่ใช่แค่ระวังว่าลูกจะกินอาหาร สะอาดปลอดภัยไหม บางบ้านต้องดูว่าลูกแพ้อะไรไหม เราต้องระวังให้ลึกไปอีกว่า ร้านจะใส่สารเสพติดในอาหารด้วยรึเปล่า เพราะถึงแม้ใส่ในปริมาณน้อย ผู้ใหญ่อย่างเราทนไหว แต่ลูกๆ เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าร่างกายเค้ารับได้แค่ไหนอย่างไร

ที่มา: Pattamaporn Chandrabhaya

About the author

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *