ไม่มีสำนึก หนุ่มสวมกำไล EM แทง รปภ.ดับ ทั้งที่ไม่รู้จักกัน แม่คนตายทรุดร่ำไห้ สงสารหลานป่วยมะเร็งต้องกำพร้าพ่อ

วันที่ 4 พ.ค. 2566 พ.ต.ท.รพีพงษ์ จิตต์บุญธรรม (สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุชายถูกแทงเสียชีวิต บริเวณริมถนนติวานนท์ หน้าชุมชนริมคลองบางตลาด ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป่อเต็กตึ๊ง และแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รุดตรวจสอบ โดยที่เกิดเหตุเป็นทางเท้าริมถนนติวานนท์ ฝั่งขาออก มุ่งหน้ากรมชลประทาน

พบผู้เสียชีวิตเป็นชายนอนหงาย มีเลือดเต็มตัว สวมเสื้อเชิ้ตลายทางสีแดงแขนสั้น สวมกางเกงขาสั้นสีดำ มีบาดแผลถูกของมีคมแทงเข้าที่ต้นคอด้านซ้าย ต้นแขนซ้าย และกลางหลัง จำนวน 3 แผล ทราบชื่อผู้เสียชีวิตในเวลาต่อมาคือ นายเติมศักดิ์ ไทยเจริญพงศ์ อายุ 45 ปี รปภ.บริษัทแห่งหนึ่ง ย่านเกษตร ใกล้ศพพบรถ จยย. ยามาฮ่า รุ่นแอร็อกซ์ สีดำ-แดง ตรวจสอบตามถนนเลียบคลองบางตลาด ทางเข้าชุมชนมีกองเลือดเป็นหย่อม ๆ บนทางเดินเท้าและรองเท้าแตะเปื้อนเลือดของผู้เสียชีวิตตกอยู่

นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบมีดสั้นยาวประมาณ 5 นิ้วทิ้งอยู่ข้างประตูห้องไม่มีเลขที่ ซึ่งเป็นที่พักชั่วคราวใต้สะพานข้ามคลองบางตลาด ตรวจสอบในห้องพักไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจขุดสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ สามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้คือ นายมานะ เมฆสุวรรณ หรือ นะ อายุ 38 ปี จึงควบคุมตัวไปสอบสวนต่อที่ สภ.รัตนาธิเบศร์

จากการสอบสวนผู้ก่อเหตุให้การว่า ขณะที่ตนเดินเล่นอยู่บริเวณถนนเลียบคลอง โดยที่ไม่รู้จักกับผู้เสียชีวิตมาก่อน จึงเกิดการมองหน้ากัน จากนั้นผู้เสียชีวิตได้พูดให้ของลับ ตนจึงใช้มีดพกที่พกติดตัวเข้าไปจ้วงแทงก่อนที่ผู้เสียชีวิตจะวิ่งจากถนนริมคลองขึ้นไปเสียชีวิตที่ริมถนนข้างบนบริเวณที่จอดรถ จยย. ส่วนตนก็เข้าไปนอนต่อในห้องพัก โดยไม่รู้ว่าชายคนนั้นเสียชีวิตแล้ว

ด้านนางปราณี อายุ 59 ปี อาของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า มีคนร้องว่ามีคนถูกแทง ตนจึงรีบวิ่งไปดูก็พบคนตายนอนจอมกองเลือดเสียชีวิตแล้ว โดยที่ตนก็ไม่รู้จักว่าผู้ตายป็นใคร ส่วนคนแทงเป็นหลานชายของตน อาศัยอยู่ที่ห้องดังกล่าว ซึ่งอาศัยอยู่คนเดียวและมีอาการทางจิต ทำให้ตอนกลางวันตนจะเป็นคนมาอยู่เป็นเพื่อนแต่ตอนกลางคืนจะไม่ได้มาอยู่ด้วยเพราะกลัวจะถูกหลานชายทำร้ายร่างกาย

ต่อมา นางกิมเตียง แม่ผู้เสียชีวิตซึ่งเดินทางมาที่เกิดเหตุก่อนจะปล่อยโฮร้องไห้ด้วยความเสียใจออกมา เนื่องจากจำรถ จยย.ของลูกชายได้ พร้อมให้การว่า ตนกับลูกชายอาศัยอยู่ในซอยทรายทองใกล้กับที่เกิดเหตุ เมื่อเช้าลูกชายออกมาจากบ้านมาแต่เช้าโดยขี่รถจยย.ออกมาบอกว่าจะไปซื้อของที่ตลาด จากนั้นโทรติดต่อลูกไม่ได้

จนกระทั่งช่วงสายตนก็ยังไม่เห็นลูกชายกลับมาบ้านอีก ด้วยความรู้สึกสังหรณ์ใจ พอทราบว่ามีเหตุแทงกันตายจึงแวะมาดูก็จึงทราบว่าลูกชายตนมาถูกแทงจมกองเลือดเสียชีวิตแล้ว โดยลูกชายตนทำงานเป็น รปภ.อยู่แถวเกษตร และมีลูกชาย วัย 16 ปี ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ต้องเลี้ยงดูอยู่อีกคน

จากการตรวจสอบประวัติผู้ก่อเหตุพบว่ามีประวัติต้องโทษในคดียาเสพติดและเพิ่งพ้นโทษออกมาได้เพียงไม่กี่เดือน โดยยังใส่กำไลอีเอ็มที่ข้อเท้าเพื่อควบคุมความประพฤติอยู่ ก่อนมาก่อเหตุฆ่าคนตายซ้ำ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนต่อไป

About the author

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *