เด็กนร.หญิง ร้องเรียน อาจารย์ ม.ดัง ขอมีอะไรด้วย แลกโควตานักกีฬา เจ้าตัวโผล่โต้ไม่จริง

วันที่ 6 พ.ย. 2566 ณ.ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาผู้เสียหายซึ่งเป็นนักเรียนหญิงชั้น ม.6 ถูกอาจารย์ผู้ฝึกสอนกีฬา มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรังสิต ลวนลามในห้องน้ำโรงยิม มาร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี โดยมี ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับเรื่อง

น้องเอ (นามสมมติ) กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ วันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา อาจารย์คนก่อเหตุเรียกตนให้เข้าไปหาบอกว่าจะคุยเรื่องเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งเรียกเข้าไปในห้องกระจก โดยพ่อของตนนั่งรออยู่หน้าห้อง โดยลักษณะห้องดังกล่าวคล้ายกับห้องเก็บของถ้าหากไม่เปิดไฟทั้งห้องบรรยากาศก็จะสลัว ๆ ข้างนอกก็จะมองเห็นไม่ค่อยชัดเจนนัก

เมื่อเข้าไปในห้องอาจารย์ก็พูดถึงเรื่องมหาวิทยาลัยบอกว่าจะต้องมีเอกสารและจะส่งรายชื่อของนักเรียนที่เขาจะผลักโควตาให้มหาวิทยาลัย ภายในวันนี้แล้ว พอตอนนั่งคุยอยู่ในห้องอาจารย์ก็บอกให้ตนเอาโทรศัพท์ไปฝากพ่อไว้ข้างนอก ตนก็เอาโทรศัพท์ออกไปไว้กับพ่อแล้วเดินกลับเข้ามาใหม่

“ต่อมาครูก็บอกว่า ช่วยแบบนี้แล้ว เราให้อะไรครูได้บ้าง หนูก็เลยบอกว่าหนูจะตั้งใจเรียน ตั้งใจซ้อมและจะเป็นเด็กดี แต่ครูบอกกลับมาว่า เรื่องนั้นเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว ซึ่งครูก็พยายามถามซ้ำ ๆ ตลอด หนูก็ตอบแบบเดิม แล้วครูก็บอกว่า เงินครู ไม่อยากได้เพราะมีคนเอามาฝากเยอะแล้ว ครูก็ไม่รับเงิน

จากนั้นครูก็ลุกขึ้นแล้วเดินอ้อมผ่านหลัง ก่อนที่จะเอามือมาลูบข้างหลังบริเวณชุดชั้นในไปมาอยู่หลายครั้ง จนหนูรู้สึกว่ามันเป็นแปลก จึงถามซ้ำไปว่า ครูอยากได้อะไรคะ ครูจึงถามต่อว่า เคยมีอะไรกับใครบ้างไหม เรื่องเซ็กซ์ หนูเลยปฏิเสธไปบอกว่าไม่เคยมีและไม่อยากมี แต่ครูกลับพูดอีกว่าตอนแรกก็กลัวแต่พอตอนหลังก็จะชอบเองแหละ”

ซึ่งในตอนนั้นตนรู้สึกกลัวมากแต่พยายามทำใจให้นิ่งที่สุด เมื่อครูถามว่า ไม่รู้สึกกลัวอะไรเลยหรอ ตนจึงตอบกลับไปว่า รู้สึกเฉยๆค่ะ จากนั้นครูจึงบอกว่า ครูจะยื่นข้อเสนอนี้เอาไหม ครูจะรีบทำเอกสารให้เลย เราเลยพยายามบอกว่า ขอคิดดูก่อนค่ะ และครูก็พยายามเร่งรัด อ้างว่า จะต้องส่งรายชื่อภายในวันนี้แล้ว แต่ตนยืนยันคำเดิม

จากนั้น ครูบอกว่า ขอมัดจำนิดนึงก่อนได้ไหม นิดนึงไม่ได้อะไรขนาดนั้น ตนปฏิเสธเสียงแข็งว่า ไม่เอาค่ะครู แต่ครูพูดต่อว่า ไม่อยากให้คนเห็น ไปห้องน้ำก็ได้ ตนปฏิเสธเสียงแข็งแต่ครูไม่ยอมฟังเดินอ้อมมาอยู่ข้างหน้าของตนก่อนที่จะเอามือล้วงไปจับหน้าอก ซึ่งตนพยายามปัดออก ตนก็รีบลุกขึ้นแล้วบอกว่า จะรีบไปเรียนต่อ โดยก่อนออกจากห้องมาครูก็พูดทิ้งท้ายว่า ถ้ายังไงก็บอกนะ เพราะจะต้องรีบจัดการเอกสาร จากนั้นตนรีบบอกเรื่องราวนี้กับครอบครัวทันที

ซึ่งที่ผ่านมาก็มีนักเรียนหลายคนพูดกันว่า ครูคนนี้มักจะมีพฤติกรรมชอบแตะเนื้อต้องตัวนักเรียนแต่ด้วยกีฬาที่ตนเล่นมันเป็นกีฬาที่ต้องแตะเนื้อต้องตัวอยู่แล้ว ตนก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันกลายเป็นภาพจำที่จะอยู่กับตนไปตลอดชีวิต

จึงอยากให้ครูคนดังกล่าวถูกตำรวจจับ และได้รับบทเรียนว่าอย่าไปทำแบบนี้กับนักเรียนคนอื่นอีก ทั้งนี้ ตนไม่อยากจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยนี้แล้วถึงแม้ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยในฝันเพราะกังวลว่าหากเข้าไปเรียนแล้วต้องเจอกับอาจารย์คนดังกล่าวก็คงไม่เป็นผลดี

ด้าน นายณัฐพงศ์ ศรีสุคนธมิตร ผู้ก่อตั้งเพจดอนเมืองไม่ทิ้งกัน ในฐานะตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า มีข้อมูลจากผู้ปกครองของนักเรียนอีกคน ที่สังเกตพฤติกรรมของอาจารยย์รายนี้มานาน 2-3 ปีแล้ว พบว่ามีนักเรียนที่ตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดทางเพศลักษณะนี้อีก 4-5 คนด้วย ซึ่งถือว่าเป็นภัยสังคม และที่รับไม่ได้คือฝ่ายอาจารย์กลับบอกว่านักเรียนผู้เสียหายเป็นฝ่ายเสนอเอง และทราบว่าอาจารย์คนดังกล่าว ทำตัวรู้จักกับตำรวจ สภ.คลองหลวง จึงเป็นกังวลว่าน้องนักเรียนจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

เบื้องต้นว่าที่ร้อยตรีธนกฤต เปิดเผยว่า ได้ประสานสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และโรงพยาบาลรามาธิบดี ในการตรวจดีเอ็นเอ จากเสื้อผู้เสียหายที่สวมใส่ขณะเกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีกับอาจารย์รายนี้ต่อไป ยืนยันต้องเอาอาจารย์เข้าคุกให้ได้ และมหาวิทยาลัยจะต้องรับผิดชอบเรื่องดังกล่าว ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนอาจารย์รายนี้ จะเพิกเฉยไม่ได้ หากยังนิ่งเฉย ตนจะบุกไปตามเรื่องถึงมหาวิทยาลัย และอธิการบดีจะเดือดร้อนมากกว่านี้

ต่อมาจากการที่ได้โทรติดต่อไปยัง อาจารย์คนดังกล่าว แต่อาจารย์ขอไม่ให้สัมภาษณ์เพราะบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายร่างกาย กำลังพักรักษาตัวอยู่ ไม่สะดวกชี้แจง และได้ให้ตัวแทนที่เป็นผู้หญิงชี้แจงแทน

โดยตัวแทนยืนยันว่า คำกล่าวอ้างของผู้เสียหายไม่เป็นความจริง โดยห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องกระจกใส เปิดโล่ง มีคนเดินผ่านไปมาตลอด สามารถมองเห็นด้านในได้ ซึ่งนักเรียนที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหายก็นั่งอยู่คนละฝั่งโต๊ะกับอาจารย์ ทางไปห้องน้ำก็มีคนเข้าออกตลอด ไม่มีทางที่จะก่อเหตุดังกล่าวได้

โดยหากผู้เสียหายมีพยานหลักฐานก็ขอให้นำมาแสดง หากเป็นเพียงคำกล่าวหาลอย ๆ อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับอาจารย์ได้ ส่วนที่ผู้เสียหายจะนำชุดเสื้อผ้าไปตรวจหาดีเอ็นเอ ฝ่ายอาจารย์ก็ยินดี ส่วนหลังจากนี้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย

About the author

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *