ไม่ทนอีกต่อไป เปิดใจพ่อ Miss Thailand Universe ปี 59 เผยอดีตภรรยาอย่าเงียบ ควรออกมายอมรับความจริง

จากกรณีผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยถึงเรื่องราวชีวิตจริงที่ยิ่งกว่าละคร โดยนายนำชัย โกมลอุดมผล หรือชื่อเล่นวุฒิ อายุ 59 ปี อดีตหัวหน้าเขตมูลนิธิร่วมกตัญญูของจังหวัดนนทบุรี ที่รู้จักกันดีในนามเรียกขานรหัส นคร 58 ซึ่งลุงวุฒิกล่าวเปิดเผยถึงเรื่องราวชีวิตของตนเองที่ถึงแม้ว่าจะทำหน้าที่เพื่อสังคมมาตลอด

แต่ชีวิตจริงกับถูกสังคมเข้าใจผิดคิดว่าทอดทิ้งลูกเมียโดยเฉพาะลูกสาวเป็นถึง Miss Thailand Universe ปี 59 และยังเข้าประกวดนางงามจักรวาลติด 1 ใน 5 ของโลก แต่น่าเสียดายไม่ผ่านเข้ารอบหนึ่งในสามของการประกวดในปีนั้น

โดยหลังจากรายการ โทรทัศน์รายการหนึ่งได้นำน้องน้ำตาลหรือนางสาวสลิตา Miss Thailand Universe และยังเป็นดาราที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มาออกในรายการ โดยคุณแม่ของน้องน้ำตาลให้สัมภาษณ์พิธีกรในรายการเหมือนว่า ลุงวุฒิทอดทิ้งภรรยา และน้องน้ำตาลโดยไม่เหลียวแล

โดยกล่าวหาลุงวุฒิผู้เป็นสามีว่าตัวเขาไปทำงานที่ต่างประเทศแล้วส่งเงินมาให้ลุงวุฒิผู้เป็นสามีเพื่อดูแลน้ำตาลแต่ลุงวุฒิกับนำเงินไปปนเปรอหญิงอื่น ซึ่งข่าวดังกล่าวที่ออกมาตนยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริงเลย ทำให้ลุงวุฒิเสียหายอย่างมากถึงกับเสียใจและคิดมากทั้งๆที่เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องจริงอย่างที่แม่ของน้องน้ำตาลให้สัมภาษณ์เลย

ลุงวุฒิเปิดเผยทั้งน้ำตาว่าขณะที่ตนทำงานเป็นหัวหน้าเขตมูลนิธิร่วมกตัญญู รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดนนทบุรีนั้น มีอยู่ครั้งหนึ่งต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลไม่ได้กลับบ้าน ทั้งเวลาทำงานเข้าเวรมูลนิธิจนดึกดื่นทุกครั้งก็ต้องอุทิศเวลาให้กับงาน และสังคมทำให้บางครั้งอาจไม่มีเวลาให้ครอบครัวเพียงพอทำให้ภรรยาคือนางสาวศิวพร หรือกิ๊บ น้อยใจ และโกรธเคือง

ตนจึงอุ้มลูกสาวคือน้องน้ำตาลในตอนนั้นมีอายุเพียง 2 ขวบหนีจากตนไป ทั้งๆ ที่เราอยู่กินกันมา 4 ปี ตนมีลูกชายอีก 1 คนเป็นพี่ชายต่างมารดาของน้องน้ำตาลปัจจุบันอายุ 32 ปีทำงานเป็นพนักงานขับรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน พอตนทราบเรื่องว่าภรรยาอุ้มลูกสาวคือน้องน้ำตาลหนีจากตนเองไปตนก็ได้ออกตามหาภรรยา และลูกสาวมาตลอดแต่ภรรยาก็พยายามหนี และหลบหน้าไม่พบตน

บอกเพื่อนๆ ไม่ต้องตามหา ส่วนเรื่องที่ภรรยาให้ข่าวบอกว่า ตนทอดทิ้งเขาและน้องน้ำตาลนั้น ตนอยากจะชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องจริงเลยตลอดเวลาตนพยายามตามหาเขาและลูกสาวเพื่อที่จะอธิบายและชี้แจงความจริงให้ทราบแต่เขาก็ไม่ยอมเจอหน้าตนเอง ตนทราบว่าน้องน้ำตาลได้ตำแหน่ง Miss Universe Thailand และไปประกวดเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายของนางงามเวทีระดับโลก

ตนก็ไม่เคยคิดที่จะเกาะกระแสหรือว่าอาศัยความดังของลูกสาวเพื่อที่จะมาเปิดเผยตัวตนของความเป็นพ่อแต่อย่างใดไม่อย่างนั้นคงไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาถึง 4-5 ปี แล้วค่อยออกมาเปิดเผยเรื่องราวในวันนี้ แต่ที่ต้องออกมาชี้แจงก็เพราะว่าอดีตภรรยาไปให้ข่าวที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงจึงอยากให้สังคมเข้าใจไม่ใช่ว่าตนเองไม่อยากเจอหน้าลูกสาว ทุกคืนทุกวันตนก็คิดถึงแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร

มีอยู่ครั้งหนึ่งเคยติดต่อไปทางโทรศัพท์ เป็นผู้จัดการของน้องน้ำตาลรับสายเขาก็บอกกับตนว่าแม่ของเขาไม่ต้องการให้ลูกสาวคุยกับตนแล้วจะให้ตนทำอย่างไรในเมื่อตนเป็นพ่อแท้ๆถ้าทำอะไรไปมากกว่านี้ก็เกรงว่าจะทำให้ลูกสาวเสียชื่อเสียง แต่เมื่อมีข่าวออกมาแบบนี้ในรายการชื่อดังรายการหนึ่ง ตนผู้เป็นพ่อก็รู้สึกว่าข้อเท็จจริงมันไม่ถูกต้อง เลย จึงต้องออกมาชี้แจงเรื่องราวในอดีตให้ได้รับทราบ

ความคืบหน้าในเรื่องนี้นั้น เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2566 ที่คฤหาสน์หลังใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยของพ่อน้ำตาล นางสาวไทยปี 59 โดยลุงวุฒิได้เปิดบ้านเปิดใจให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวอีกครั้งถึงเรื่องนี้ว่า ตนต้องการให้อดีตภรรยาแม่ของน้ำตาลออกมายอมรับความจริงที่เขาพูดมันไม่ใช่เรื่องจริงเลย ตนได้รับความเสียหายมาก

ที่ตนต้องออกมาพูดเพราะอะไร เขาน่าจะคิดได้ที่พูดมาไม่เป็นความจริงเลย ตนต้องการความถูกต้องจะไปพูดยังไงไม่เคยสนใจ ตอนนี้อยากให้ทุกคนเข้าใจไม่ได้เป็นเหมือนที่แม่เขาพูดตนอยู่ดีกินดี ไม่เดือดร้อนอะไร บ้านก็มี หลานก็มี ครองตัวโสด มาจนทุกวันนี้ไม่คิดอะไรแล้ว ขออยู่แบบนี้กับหลานดีกว่า

ตอนเขาอยู่กับตนไม่ได้ให้อะไรตนเลย ตนเลี้ยงดูลูกหลานทั้งหมดแต่พอเขาพูดแบบนี้รู้สึกไม่สบายใจ เขาไปออกรายการหาว่าตนลำบาก ต้องคอยหาเงินให้ตนกับน้ำตาล ตอนนี้ผู้สื่อข่าวก็เห็นตนอยู่สบาย อยู่บ้านหลังใหญ่ คิดว่าอยู่สบายกว่าเขาอีก ส่วนเรื่องที่สังคมหรือพวกที่ชอบ comment เข้ามาหาว่าตนเกาะกระแสนั้น

ตนไม่รู้ว่าเกาะกระแสมาจากไหน คืออะไร ตนแก่แล้ว จะเกาะกระแสไปเพื่ออะไร ที่ผ่านมาช่วยเหลือสังคมมาเยอะมากคงไม่จำเป็นต้องไปเกาะกระแส ที่ออกมาเพราะต้องการปกป้องศักดิ์ศรีปกป้องตัวเองและครอบครัว เนื่องจากเขาไปออกรายการแล้วพูดไม่จริง ตนเข้าใจในตัวลูกสาวเพราะว่าโดนแม่ล้างสมอง เขาอยู่กับแม่เขาคงจะต้องเชื่อแม่

ไม่ได้โกรธอะไรลูกสาวเลย ที่ลูกพูดทั้งหมดคิดว่าแม่เป็นคนให้พูด ตนไม่เคยว่าอะไรลูกเนื่องจากลูกโตแล้วก็น่าจะมีความคิดของตัวเอง ขอให้สัมภาษณ์ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายเพราะเบื่อมาก ออกมาพูดแบบนี้ก็ยังงงอยู่ว่าพูดเพื่ออะไร อยู่ที่ลูกแล้วว่าจะคิดว่ายังไงเพราะเขาโตแล้ว ทุกวันนี้ตนอยู่สุขสบายไม่ได้ลำบากอะไร อยากให้อดีตภรรยาออกมาขอโทษถ้าไม่ใช่เรื่องจริงอย่านิ่งเงียบแบบนี้เพราะสังคมจะคลางแคลงใจเปล่าๆ

About the author

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *