หนุ่มลาป่วย 1 วัน นายจ้างโทรขู่ ไม่จ่ายเงินทั้งเดือน อยากได้ให้ไปฟ้องเอา

วันที่ 20 ก.พ. 2567 นายภาวิตร (ขอสงวนนามสกุล) เปิดเผย กรณีนายจ้างไม่จ่ายเงินเดือน เนื่องจากลาป่วย 1 วันแถมไล่ให้ไปฟ้องกรมแรงงาน ว่า ตนทำงานที่บริษัทนี้มาประมาณ 3 เดือน เมื่อวันที่ 14 ก.พ. รู้สึกไม่สบาย จึงไลน์ไปลางานผ่านหัวหน้างาน ซึ่งเป็นน้องชายของนายจ้างของตนอีกทีนึงตั้งแต่ช่วงประมาณ 7 โมงเช้า

จากนั้นประมาณ 9 โมง นายจ้างโทรมาขู่ว่าจะไม่จ่ายเงินเดือนถ้าลางาน ขาดงานไม่บอกแบบนี้ ถ้าอยากได้เงินเดือนให้ไปฟ้องกรมแรงงานเอาได้เลย ซึ่งเขาไม่รู้ว่าตนลางานกับน้องชายเขาไปแล้ว

ต่อมาวันที่ 15 ก.พ. 2567 ตนกลับไปทำงานตามปกติพร้อมกับจะยื่นใบโอที เพราะเงินเดือนต้นออกเป็นวีกต้องได้รับเงินวันที่ 15 ของทุกเดือน แต่พอไปถึงเห็นว่าที่บริษัทติดป้ายประกาศว่าห้ามตนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบริษัท ตนจึงโทรไปหาฝ่ายบุคคลเพื่อสอบถามว่าจะได้เงินเดือนหรือไม่ เขาก็บอกว่าให้ไปคุยกับนายจ้างถ้าโอเคก็จะจ่ายให้ ถ้าไม่โอเคก็จะไม่จ่าย

จากนั้นตนก็ไปคุยกับนายจ้าง เขาก็พิมพ์กลับมาบอกว่าไม่จ่าย เพราะเขาบอกไปแต่แรกแล้วว่าถ้าอยากได้ให้ไปฟ้องกรมแรงงาน ตนจึงบอกว่าจะไปแจ้งความฐานยักยอกทรัพย์และฉ้อโกง ซึ่งนายจ้างก็บอกว่า ไปเลย กูรออยู่ ซึ่งตนก็ไม่ได้เงินเดือนและไม่ได้โอทีของรอบนี้เลย รวมทั้งโดนเลิกจ้างด้วย

นายภาวิตร กล่าวต่อว่า หลังจากไปโพสต์ลงโซเชียล มีหลายคนแนะนำว่าให้ไปแจ้งที่กรมแรงงาน ตนจึงไปแจ้งเรื่องที่กรมแรงงานและนำหลักฐานทุกอย่างที่มีไปยืนยัน ซึ่งทางกรมแรงงานก็แจ้งว่าให้รอดำเนินเรื่องประมาณ 1-2 อาทิตย์ จะได้ผลสรุปว่าจะจัดการอย่างไร

ตนรู้สึกเสียใจเพราะว่ามันเป็นรายได้ที่ตนทำมาด้วยน้ำพักน้ำแรง เมื่อโดนแบบนี้ก็รู้สึกไม่ดี ที่ผ่านมาตนก็ทำงานตั้งแต่ตี5 กว่าจะเลิกก็ 4-5 ทุ่มทุกวัน ทั้งที่ผ่านมาตนยังไม่เคยลางานเลย เพิ่งลาวันที่ 14 ก.พ. เป็นครั้งแรก

ตนมองว่าการลาโดยเฉพาะเรื่องลาป่วยไม่น่าจะมีปัญหาอะไร จริงๆ จุดประสงค์ของตนไม่ได้อยากมีปัญหาอะไรกับใครอยู่แล้ว แต่พอเขาทำแบบนี้เหมือนว่าเขาจงใจแกล้งตน เพราะระหว่างที่ตนทำงานอยู่ตนก็รู้สึกได้เลยว่านายจ้างของตนนั้นไม่ได้ชอบตน

ชอบทำท่าทางไม่พอใจใส่ตน เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ชอบพูดจาขู่ตนมาเป็นประจำ ชอบใช้คำพูดรุนแรง ซึ่งตนก็รู้ดีและขอเขาทำงานถึงสิ้นเดือนนี้แต่มาเกิดเรื่องนี้ขึ้นซะก่อน ซึ่งเงินก้อนนี้ถือว่ากระทบกับการดำรงชีวิตของตนมาก เพราะว่าตนวางแผนไว้หมดแล้วว่าต้องใช้เงินต้องจ่ายอะไรบ้างมันก็ผิดพลาดไปหมด

สุดท้ายนี้ อยากฝากว่าถ้าลูกจ้างหรือนายจ้าง หากทั้ง 2 ฝ่ายร่วมงานกันไม่ได้ ก็แค่ไปจากกันด้วยดี ไม่ต้องมีปัญหาอะไรกัน ถ้านายจ้างไม่พอใจลูกจ้างก็แค่ให้ออกไปต่างคนต่างไป หรือถ้าลูกจ้างไม่พอใจก็แค่ลาออกไปไม่ต้องมีปัญหาอะไรต่างคนต่างแยกย้าย แต่พอมีปัญหาแบบนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องดีของทั้งสองฝ่าย

About the author

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *