ครูสาวเปิดใจแล้ว กราบขอโทษ ใช้เข็มกลัดทิ่มปาก นร. 36 คน ลั่นที่ทำไปเพราะหวังดี

จากกรณีผู้ปกครองนักเรียนชั้น ป.2 วัย 7 ขวบ โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ เนื่องจากลูกชายและเพื่อนในห้องเรียนรวม 36 คน ถูกครูผู้หญิงลงโทษโดยการใช้เข็มทิ่มปากยกชั้นเรียน ล่าสุดทราบว่าโรงเรียน สั่งการให้ครูผู้ก่อเหตุหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวไปแล้ว และให้ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่น

สำหรับความคืบหน้า วันที่ 26 ม.ค. 2567  ผู้อำนวยการโรงเรียน นัดผู้ปกครองของนักเรียนทั้ง 36 คน ซึ่งเป็นห้องที่เกิดเหตุ มาพูดคุยและหาข้อตกลงร่วมกัน ภายในห้องประชุมในโรงเรียน โดยผอ.โรงเรียน กล่าวในห้องประชุมว่า ตนเองเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และเหตุการณ์แบบนี้ไม่สมควรเกิดกับลูกๆ ในโรงเรียน

การกระทำที่ไม่ได้ไตร่ตรองของคุณครู นับเป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก หลังเกิดเหตุตนสอบถามครูทั้ง 2 คน เบื้องต้นยอมรับว่ากระทำจริง ซึ่งตนก็งงว่าครูใช้อะไรคิด จากนั้นจึงเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้ามาหาข้อมูล เพื่อสร้างความเข้าใจกับผู้ปกครอง เรื่องนี้จะปล่อยผ่านไม่ได้ เพราะเป็นนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และนโยบายของโรงเรียน ที่สำคัญที่สุดคือ จรรยาบรรณวิชาชีพของครู โรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ ตั้งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง และรายงานไปยังเขตพื้นที่การศึกษาปฐมศึกษาสมุทรปราการตั้งแต่วันเกิดเรื่อง เพื่อดำเนินการลงโทษทางวินัยกับครูทั้ง 2 คน

เบื้องต้นมีคำสั่งให้ครูทั้งสองหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน และย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ยังส่วนกลาง ส่วนโทษนั้นหามีการสอบสวนและและทำเกินกว่าเหตุ อาจถึงขั้นไล่ออก ส่วนบรรยากาศภายห้องประชุม โรงเรียนได้ตั้งกลุ่มไลน์กับผู้ปกครอง เพื่อติดตามอาการเด็กและความคืบหน้าทางคดี และประสานพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ เข้ามาอำนวยความสะดวกกับผู้ปกครอง ด้านการรับแจ้งความ ซึ่งจากการพูดคุยทางผู้ปกครองยังไม่พึงพอใจ เพราะยังไม่ได้รับคำขอโทษจากครูผู้ก่อเหตุ

ต่อมาทางโรงเรียนนำตัวเด็กทั้งหมดที่ถูกครูลงโทษ ไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลสำโรงการแพทย์ โดยทางโรงเรียนจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด และจะติดตามอาการของเด็กอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สมุทรปราการ ลงพื้นที่มายังโรงเรียนเพื่อให้คำแนะนำทางด้านคดี และพูดคุยเยียวยาจิตใจเด็ก

ด้านคุณบี หนึ่งในผู้ปกครอง กล่าวว่า น้องมีอาการอาเจียนอย่างหนักถึง 7 ครั้ง จึงพาไปตรวจที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าติดเชื้อที่ลำไส้ แต่ก็ไม่ฟันธงว่าเกิดจากเข็มที่ครูทิ่มหรือไม่ จากนั้นตนพยายามเค้นถามลูกจนได้ความว่า ครูลงโทษเอาเข็มมาจิ้มที่ปากเด็กทั้งห้อง เพราะไม่มีใครรับว่ากินหมากฝรั่งแล้วคายทิ้งในห้องเรียน ตอนนี้ลูกสาวตนหวาดกลัวมาก ไม่กล้ามาโรงเรียน หลังจากนี้ตนอยากได้ยินคำขอโทษจากครูผู้ก่อเหตุ และยืนยันว่าจะไปแจ้งความเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

พ.ต.อ.ประภาส มั่งคั่ง รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวว่า ตำรวจเองก็อยู่ระหว่างติดตามเชิญอาจารย์ทั้ง 2 คนมาพบ ส่วนเด็กทั้ง 36 คนในห้องต้องส่งตัวไปให้แพทย์ตรวจภายในวันนี้ แล้วจะเชิญผู้ปกครองมาสอบปากคำ โดยทีมของตำรวจตั้งทีมงานไว้รอ เพื่อไม่ให้เสียเวลา เบื้องต้นตอนนี้น่าจะเข้าข่ายความผิด ทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ซึ่งลักษณะโทษจะมากขึ้นหรือไม่ ก็ต้องขอดูบาดแผลก่อน แต่ในเบื้องต้นดูแล้วน่าจะเป็นการใช้เข็มกลัดทิ่มบริเวณริมฝีปากด้านในของเด็ก คงต้องให้แพทย์ตรวจดูอีกทีนึง

ต่อมาครูปุ๊ก ครูที่ก่อเหตุเปิดใจทั้งน้ำตาว่า ต้องกราบขอโทษสังคม ผู้ปกครองนักเรียน รวมถึงทางโรงเรียน สาเหตุที่ทำไปเพราะหวังดี ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายเด็ก และไม่คิดว่าการที่ตนลงโทษแบบนี้จะทำให้เด็กมีบาดแผล โดยการลงโทษในลักษณะนี้ทำเป็นครั้งแรก และเป็นการเพื่อข่มขู่ให้เด็กรับความจริงเท่านั้น แต่ช่วงจังหวะที่เอาเข็มกลัดทิ่มลงไปนั้น ด้วนน้ำหนักมือไม่เท่ากัน อาจจะพลาดไปโดนปากเด็กบ้าง

ครูปุ๊ก กล่าวว่า ส่วนเข็มกลัดนั้น เป็นเข็มกลัดใหม่ที่ใช้สำหรับกลัดเสื้อช่วงเวลามีการแสดงเพื่อให้เสื้อเข้ารูป ต่อมาหลังจากลงโทษเสร็จ เด็กทุกคนก็ไปทานข้าวกันตามปกติ จึงไม่คิดว่าเด็กได้รับบาดเจ็บหรือมีบาดแผล ส่วนวันเกิดเหตุนั้น ครูอีกคนเดินไปเหยียบหมากฝรั่งช่วงหน้ากระดานดำภายในห้อง แต่เมื่อถามเด็กในห้องก็ไม่มีใครไม่ยอมรับ ครูคนดังกล่าวจึงเดินมาตามตนที่ห้อง เพื่อให้ไปช่วยสอบเด็ก เนื่องจากเด็กค่อนข้างจะกลัวตนมากว่าครูคนดังกล่าว

ขณะที่ครูจ๋า คนที่เหยียบหมากฝรั่ง กล่าวว่า วันเกิดเหตุสาเหตุที่ตนเองไปเรียกครู เพื่อต้องการให้ครูปุ๊กมาว่ากล่าวตักเตือนเด็กเท่านั้น โดยไม่คิดว่าครูปุ๊กจะเอาเข็มกลัดมาทิ่มปากเด็ก เพราะตนคิดว่าคงไม่มีใครทำโทษเด็กแบบนี้ และวันเกิดเหตุตนเองอยู่หลังห้อง เด็กทั้งหมดหันหน้าไปทางหน้ากระดาน จึงมองไม่เห็นช่วงที่ครูปุ๊กทำโทษ หากตนเห็นคงห้ามไปแล้ว เพราะก็รักเด็กๆเหมือนลูก ทั้งนี้ตนเองก็ต้องยอมรับข้อบกพร่องของตัวเองที่ไม่รอบคอบ และเฝ้าดูแลเด็กในปกครองอย่างใกล้ชิด อยากจะขอโทษผู้ปกครองและสังคม และตนเองน้อมรับสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่าง

ทางด้าน พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวหลังสอบปากคำครูผู้ก่อเหตุว่า คุณครูทั้ง 2 รับสารภาพ โดยยืนยันเจตนาไม่มีความตั้งใจทำร้ายเด็กขนาดนั้น แต่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ ส่วนทางคดีก็ต้องว่ากันไป ทางคดีตอนนี้สอบเสร็จแล้วบางส่วน แต่ยังคงต้องรอผลแพทย์ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาโดยครูปุ๊ก ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้เป็นอันตรายต่อกายและจิตใจ ส่วนครูจ๋า ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา แต่หากการสอบสวนพยานหลักฐานไปถึงครูจ๋า ก็จะต้องแจ้งข้อกล่าวหาด้วยอีกคน

About the author

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *