กลายเป็นร้อนแรงที่เกิดเสียงกระแสวิพากษ์วิจารณ์สนั่น เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งออกมาเล่าประสบการณ์ของตัวเองผ่านกลุ่มพวกเราคือผู้บริโภค หลังเข้าไปรับประทานของหวานที่ร้านแห่งหนึ่งย่านนานา ซึ่งเมนูไม่ระบุราคาของหวาน ก่อนจะพบกับความอึ้งเพราะเค้กชิ้นละ 330 บาทเลยทีเดียว
โดยระบุว่า… บูลเบอรี่ชีสพายชิ้นละ 330 บาท ทุกคนคิดว่าราคาแรงไหมคะะ ร้านในย่านนานา ความไม่รู้ คิดว่าเต็มที่คงน่าจะไม่เกิน 220 บาท สั่งมากันคนล่ะชิ้นไปนั่งกัน 3 คน คิดเงินมาถึงกับตกใจ เมนูน้ำไม่ได้ซีเรียสนะกับราคา เป็นปกติอยู่แต่เจอขนมไป งงเลย 3 ชิ้น 990 บาท ส่วนเมนูน้ำก็มี 150 บาท ซึ่งเป็นราคาทั่วไปตามร้านคาเฟ่
ซึ่งทางเจ้าของโพสต์ได้เดินไปถามพนักงานแคชเชียร์แล้วเขาแจ้งมาว่าเบเกอรี่ชิ้นละ 330 บาท ถูกต้องแล้ว ซึ่งในเมนูไม่มีตัวเลขราคามีเพียงเลขลำดับเลขสินค้า 119 – 129 ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นราคาเค้ก
นับตั้งแต่เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ก็กลายเป็นกระแสไวรัลที่มีคนเข้ามาถกเถียงกันอย่างหนัก ต่างแสดงความคิดเห็นว่า ราคาบลูเบอร์รี่ชีสพายชิ้นละ 330 บาทก็ถือว่าแพงเกินไป ราคานี้สามารถขายเป็นต่อปอนด์ได้เลย แถมการที่ร้านไม่แจ้งราคาบอกในเมนูอาจผิดกฎหมาย
เค้กโรงแรม 5 ดาวยังไม่แพงขนาดนี้เลย, แพงไปจ้า แต่ร้านเค้าจะตั้งราคาไหนก็ได้แหละ จะตั้งแพงกว่านี้ก็ยังได้ ประเด็นคือเค้ามีราคาบอกไว้ไหมคะ ถ้าไม่มีคือผิดกฎหมายเลยค่ะ, ร้านไม่ติดป้ายราคา ลองแจ้งกรมการค้าภายในดูค่ะ, ทำมาขายต่างชาติก็ไม่ควรแพงขนาดนี้, ถ้าไม่มีราคาบอกชัดเจนในเมนู เราว่าร้องเรียนได้นะคะ, มีคิด vat แต่ไม่มีเลขผู้เสียภาษี
ทั้งนี้มีชาวเน็ตออกมาเผยว่าเค้กดังกล่าว หน้าตาคล้าย ๆ กับเค้กร้านดังร้านหนึ่ง คร่าว ๆ ก็คือ ในเมนูไม่ระบุราคา และเค้กเป็นของอีกร้านนึง ซึ่งร้านนี้น่าจะไปรับมาขายต่ออีกที และถ้านี่เป็นเรื่องจริง ก็ไม่น่าจะปิดชื่อร้านนะคะ (เพราะผิดตั้งแต่ไม่ติดราคาให้ชัดเจนแล้ว) ถ้าถามว่า 330/ชิ้นแพงมั้ย ตอบ แพงมาก เค้กโรงแรม 5 ดาว ยังไม่แพงขนาดนี้เลย
