เกือบไปแล้ว! ช็อกไม่หาย เบ็ดพร้อมเอ็น อยู่ในผัดเผ็ดปลาดุก กำลังจะตักเข้าปาก

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์เตือนภัยว่า… มาแชร์ประสบการณ์เจอเบ็ดตกปลาในอาหารค่ะ สั่งอาหารจากแอพเขียว เป็นร้านอาหารใต้ กำลังจะตักเข้าปากตามองไปเห็นอะไรเป็นเส้นๆ ตกใจมากค่ะ มันคือ เบ็ดตกปลา!! รีบโทรไปหาร้าน ได้คำตอบว่า ทางร้านก็ล้างดีแล้ว ไม่รู้หลงมาได้ไง เป็นคำตอบที่ไม่โอเคมากๆ ค่ะ อันตรายมากๆ ถ้ากินเข้าไป เตือนผู้บริโภคไว้เป็นอุทาหรณ์นะคะ จะกินอะไร มองกันดีๆ ค่ะ

ล่าสุดวันที่ 6 ส.ค. 2566 จากการสอบถามผู้โพสต์จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย น.ส.อิสรีย์ แสงอนันต์ขจร อายุ 31 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ย่าน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ก่อนจะเปิดคลิปจากมือถือให้ดู ซึ่งถ่ายเก็บไว้ พบว่าตัวเบ็ดตกปลายาวประมาณ 1 ซม. ปนอยู่ในอาหาร ซึ่งยังมีสายเอ็นติดอยู่ที่ตัวเบ็ดด้วย

น.ส.อิสรีย์ เปิดเผยว่า… เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากในช่วงบ่ายตนได้สั่งอาหารผ่านแอพพลิเคชั่นเจ้าหนึ่ง โดยได้สั่งอาหารเป็นเมนูผัดเผ็ดปลาดุกใบยี่หร่าพร้อมข้าวเปล่า ส่วนของเพื่อนเป็นข้าวปลาแกะจากร้านอาหารปักษ์ใต้ร้านหนึ่ง เมื่อตนได้รับอาหารมา แล้วนำมาแกะถุงเพื่อจะกินอาหารพร้อมกันกับเพื่อน ตนได้แกะถุงผัดเผ็ดปลาดุกใบยี่หร่าเพื่อตักแบ่งออกมาจากถุงส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลือจะเก็บไว้กินในมื้อเย็น ปรากฎว่าหลังจากตนตักกินไปได้ 1 คำและกำลังจะตักคำที่สองมากินต่อ โดยเลือกตักส่วนพุงปลาเพราะตนเองชอบกินพุงปลามาก

ระหว่างที่ตนตักพุงปลาพร้อมกับข้าวเพื่อกำลังจะเอาเข้าปาก มองหันไปเห็นอะไรแปลกๆ ในช้อน เป็นเส้นเงาๆ อยู่ในช้อนข้าวพอดี ซึ่งในตอนนั้นตนยังคิดในใจว่าน่าจะเป็นเครื่องในปลาหรือเส้นเลือดปลา จึงลดช้อนลงมาดู จากนั้นจึงใช้ช้อนซ้อมเขี่ยดู จึงเห็นว่าสิ่งที่ตนเห็นเป็นเส้นๆนั้น สายเอ็นกับตัวตะขอเบ็ดตกปลา ซึ่งทำให้ตนตกใจมากจึงรีบบอกเพื่อนที่นั่งกินข้าวอยู่ด้วยกันว่าเจอเบ็ดตกปลาในพุงปลาดุก เพื่อนก็งงว่ามันมาได้ยังไง จากนั้นเพื่อความแน่ใจจึงนำเบ็ดตกปลาที่เจอ มาวางลงชามเพื่อดูให้แน่ใจอีกทีว่าใช่เบ็ดตกปลาจริงๆ หรือไม่ จึงก็พบว่ามันคือเบ็ดตกปลาที่มาพร้อมเส้นจริงๆ

น.ส.อิสรีย์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นตนจึงถ่ายคลิปกับรูปไว้เป็นหลักฐาน และรีบโทรติดต่อกลับไปแจ้งทางร้านอาหารที่ตนสั่งมา ให้รับรู้ว่าตนเจอตะขอเบ็ดตกปลาในอาหารที่สั่งจากร้านเขามากิน ซึ่งทางเจ้าของร้านเองก็ตกใจว่าเป็นไปได้อย่างไร พร้อมกับยืนยันว่าทางร้านได้ทำความสะอาดปลาที่นำมาทำอาหารดีแล้ว ทำให้ตนต้องถามย้ำทางร้านกลับไปว่า มั่นใจว่าได้ล้างทำความสะอาดดีหรือเปล่า ทำให้ทางร้านตอบกลับตนมาว่ายินดีที่จะทำผัดเผ็ดปลาดุกมาให้ใหม่ แต่ตนไม่สะดวกใจที่จะกินอาหารจากทางร้านอีกเพราะยังไม่หายตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงไม่รับอาหารชุดใหม่ ทำให้ทางร้านแสดงความรับผิดชอบด้วยการโอนเงินคืนค่าผัดเผ็ดปลาดุกใบยี่หร่ามาให้ตนในราคา 120 บาทแทน

น.ส.อิสรีย์ เปิดเผยอีกว่า ในวันนั้นโชคดีที่ตนมองไปเห็นเบ็ดตกปลาเข้าเสียก่อน ไม่อยากคิดต่อไปว่าถ้าวันนั้นเผลอกลืนเบ็ดตกปลาลงไปแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นกับตนบ้าง ไม่รู้ว่าเบ็ดตกปลาจะไปตกอยู่ตรงจุดไหนของร่างกาย มันเป็นสิ่งแปลกปลอมที่เป็นตะขอมีความแหลมคม สุดท้ายคงจะต้องไปผ่าตัดเพื่อเอาออกแน่นอน ถือว่าตนโชคดีที่รอดจากเบ็ดตกปลามาได้หวุดหวิด เพราะโดยปกติแล้วระหว่างนั่งพักกินข้าว ตนก็จะเปิดโทรศัพท์ดูไปด้วยเป็นประจำ

อยากฝากไปถึงร้านอาหารต่างๆ ให้คำนึกถึงความสะอาดและตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบที่นำมาทำอาหารให้ลูกค้าดีๆ เพราะลูกค้าที่ตัดสินใจสั่งซื้ออาหารก็ใช้เงินที่เขาทำงานมาแลกซื้อ เมื่อซื้ออาหารมาแล้วก็อยากจะกินอาหารแบบสบายใจ ไม่ต้องมานั่งระแวงความปลอดภัยแบบนี้ ส่วนตัวลูกค้าซึ่งผู้บริโภคเองก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังด้วย เพราะอาจมีสิ่งแปลกปลอมติดมาได้เสมอ ก็อย่าประมาท ตนยอมรับว่าหลังเหตุการณ์เจอตะขอเบ็ดตกปลาในพุงปลาแล้ว ทำให้ตนกลายเป็นคนแพนิค หวาดระแวงกับอาหารที่สั่งมากิน จนทุกวันนี้ต้องเขี่ยอาหารให้กระจายออกทุกครั้งก่อนที่จะตักเข้าปาก โดยเฉพาะกับอาหารที่เป็นเมนูปลาต่าง ๆ ตนไม่กล้าสั่งมากินหรือซื้อกินอีกเลยนับตั้งแต่เจอเหตุการณ์ในวันนั้นเพราะภาพเบ็ดตกปลามันยังอยู่ในหัวตน

ในเบื้องต้น น.ส.อิสรีย์ คาดว่า ตะขอเบ็ดตกปลาที่พบว่าติดมากับพุงปลานั้น น่าจะเป็นเพราะปลาตัวดังกล่าว คงไปหลงกินเหยื่อที่มีคนตกปลานำมาเบ็ดมาตกไว้แต่ปลาได้กลืนเบ็ดลงท้องไปทำให้คนตกปลาใช้วิธีตัดสายเอ็นออกแทน ก่อนที่ปลาจะถูกจับนำมาขายแล้วทางร้านซื้อมาทำอาหารขายต่อให้กับลูกค้าอีกที

About the author

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *