ฮือฮาหนัก หลวงพ่อแก้ว ถูกทิ้งริมป่าช้า 50 ปี ใครอธิษฐานจะเกิดปาฏิหาริย์ ได้เลข 3 ตัวตรงๆ

วันที่ 30 เม.ย. 2566 ณ.บริเวณลานธรรม วัดในเขา ต.บ้าหวี อ.หาดสำราญ จ.ตรัง พระมหารัตนากร ปวโร (นาคพล) เจ้าอาวาสวัดฯ และยังเป็นเจ้าคณะ ต.ท่าพญา และเลขาฯ เจ้าคณะอำเภอปะเหลียน นายถนอม ชิตแก้ว ประธานคณะกรรมการวัดฯ และเป็นอดีตกำนันตำบลบ้าหวี พร้อมด้วย ชาวบ้านในชุมชน ร่วมกันอัญเชิญพระพุทธรูปพระพุทธรตนโชติ (หลวงพ่อแก้ว) อายุเก่าแก่ประมาณ 46 ปี

ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ของชุมชน ที่ถูกทิ้งไว้ภายในสวนยางพาราของเช้าบ้านซึ่งอยู่ติดกับป่าช้าของวัดมาประดิษฐานภายในวัด ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย. 2566 ซึ่งตรงกับวันพระ มีบรรดาญาติโยมได้เข้ามากราบไหว้กันอย่างไม่ขาดสาย โดยจะจัดตั้งไว้จนถึงวันที่ 10 พ.ค. ก่อนนำไปบูรณะซ่อมแซมให้กลับมาสมบูรณ์

หลังจากที่ พระมหารัตนากร เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ได้พบเจอพระพุทธรูปองค์ดังกล่าว จึงอธิษฐานว่าถ้าพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวอยากจะมาประดิษฐานอยู่ภายในวัด ขอให้ดลจิตใจให้มีญาติโยมนำกลับมาบูรณะ จากนั้นไม่นานเพียงแค่ 7 วัน มีญาติโยมเข้ามาถวายสังฆทาน แล้วอยู่ๆ ญาติโยมก็พูดว่าถ้ามีพระพุทธรูปอยากให้สร้างหรือซ่อม โยมมีลูกชายเป็นช่างปั้น ให้พระมหารัตนากร แจ้งความประสงค์ได้เลย

ทำให้พระมหารัตนากร ก็ได้เอ่ยปากว่าได้อธิษฐานไปเมื่อ 7 วันก่อนเอง จึงได้บูรณะพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวจริง ๆ หลังจากนั้นจึงได้นิมนต์พระพุทธรูปดังกล่าวมาประดิษฐานไว้ที่วัด พร้อมทั้งทางญาติโยมก็ได้มารับเป็นเจ้าภาพบูรณะในเวลาเดียวกัน พระมหารัตนากร กล่าวต่อว่า… ในช่วงที่ทำสวนอยู่นั้น ในยามว่าง ทิดเหียน ซึ่งมีพรสวรรค์ในการปั้น จึงได้ออกแบบปั้นพระพุทธรูป ด้วยปูนซิเมนต์ ตามแบบแนวคิด ชื่อพระพุทธรตนโชติ (หลวงพ่อแก้ว)

ทำการปั้นด้วยมืออยู่ในสวนยางพารา สร้างจนแล้วเสร็จจำนวน 2 องค์ ต่อมาได้ขายที่ดินสวนยางพาราดังกล่าวให้กับคนในพื้นที่ แล้วกลับไปอยู่บ้านเกิด และเสียชีวิตภายหลัง โดยเจ้าของที่ใหม่ก็ไม่ได้ทำลายพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งที่ได้ล้มยางพาราแล้วปลูกใหม่ทดแทนไปแล้ว

อีกไม่นานได้มีชาวบ้าน ในพื้นที่ ต.แหลมสอม อ.ปะเหลียน ได้ฝันว่ามีพระพุทธรูปอยู่ข้างป่าช้า ใน ต.บ้าหวี จำนวน 2 องค์ จึงเดินทางไปตรวจสอบและพิสูจน์ตามฝัน ผลปรากฏว่ามีจริง ๆ จึงอัญเชิญ องค์เล็กไปบูชาที่วัดโคกมะขาม หรือวัดหาดเลา เพียงองค์เดียว จนเป็นที่เคารพบูชามาจนถึงปัจจุบัน ส่วนที่เหลืออีกหนึ่งองค์ ยังปล่อยทิ้งอยู่ในสวนยางพารา

ขณะที่ นายถนอม ชิตแก้ว ประธานคณะกรรมการวัดในเขา และเป็นอดีตกำนันตำบลบ้าหวี กล่าวว่า ทิดเหียน เป็นคนเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา จึงหล่อปั้นพระพุทธรูป โดยปั้นด้วยมือของตนเอง จำนวน 2 รูป ในลักษณะเดียวกันแต่ขนาดต่างกัน ขณะเดียวกันเวลาผ่านมาท่านพระมหารัตนากร ปวโร (นาคพล) ได้ไปสำรวจบริเวณป่าช้าดังกล่าว

ท่านก็ได้บอกพระพุทธรูปองค์ดังกล่าว ถ้าท่านจะกลับวัดให้หาช่างปั้นรูปตกแต่งให้สวยงามมารับบูรณะ ในขณะนั้นเวลาถัดมาได้มีเจ้าภาพแสดงความประสงค์รับเป็นเจ้าภาพทางพระมหารัตนากร ปวโร (นาคพล) จึงได้นิมนต์กลับวัด หลังจากที่พระพุทธรูปดังกล่าวได้ถูกนำมาบูรณะและประดิษฐานภายในวัด

ซึ่งก็ได้มีบรรดาญาติโยมและสาธุชนแห่กันเข้ามาจุดธูป เทียน นำดอกไม้ ไปวางยังหน้าพระพุทธรูปทันที และต่างขอพร ขอโชคลาภ โดยที่ส่วนใหญ่ต่างนำเอาอายุของพระพุทธรูปคือ 46 ปี และวันที่ในการนำพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวมาประดิษฐานคือวันที่ 27 ตรงกับ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 และบางรายถึงกับเห็นเลข 460 ซึ่งต่างก็นำไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล

About the author

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *