แม่โวยหนัก โรงเรียนตรวจอาวุธหละหลวม หลังลูก ม.1 ถูกยิง กลางงานกีฬาสี

จากกรณีที่นักเรียนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดวันที่ 30 ส.ค. 2565 ที่ผ่านมา ภายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ขณะอยู่ที่เต็นท์ข้างสนามแข่งขันวอลเลย์บอล ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา เข้าตรวจสอบ พบเด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ ด.ช. อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 ถูกยิงเข้าบริเวณสะโพกด้านขวา เจ้าหน้าที่ได้นำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

ล่าสุดวันที่ 31 ส.ค. 2565 น.ส.ศรีสวัส เหมกุล อายุ 43 ปี แม่ของ ด.ช.ที่ถูกยิง เปิดเผยว่า… ตอนนี้แพทย์ได้ทำการล้างแผลให้ลูกชายแล้ว แต่เนื่องจากแผลลึกมาก เพราะถูกกระสุนปืนยิงทะลุตั้งแต่สะโพกด้านขวาไปถึงสะโพกด้านซ้าย ทำให้กระดูกเชิงกรานสะโพกด้านซ้ายแตกร้าว แพทย์จึงยังไม่สามารถผ่าตัดนำกระสุนออกมาได้ ขณะนี้แพทย์ยังไม่อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยม เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19

โดยลูกชายยังรู้สึกตัวดี แต่มีอาการปวดระบมที่ขาด้านขวามาก ต้องรอแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องของกระดูกมาวินิจฉัยอีกครั้ง ก่อนทำการผ่าตัด โดยคาดว่าจะสามารถผ่าตัดได้วันนี้ ทั้งนี้ลูกชายเล่าให้ฟังว่า… ช่วงที่เกิดเหตุลูกได้นั่งเชียร์วอลเลย์บอลอยู่บนพื้นปูน ในเต็นท์ข้างสนาม ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงคล้ายเสียงปืนดังขึ้น 1 นัดอยู่ใกล้ๆ ตัว และลูกก็ล้มลง รู้สึกเจ็บบริเวณสะโพกด้านซ้าย จับดูก็พบว่ามีเลือดไหลออกเป็นจำนวนมาก

นักเรียน และครูที่อยู่บริเวณนั้นจึงได้ทำการปฐมพยาบาล และโทรศัพท์เรียกรถพยาบาล จากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แล้วนำส่งโรงพยาบาล น.ส.ศรีสวัส กล่าวต่อว่า… ลูกชายของตนนั้นไม่เคยมีเรื่องกับใคร เพราะเพิ่งย้ายมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ได้เพียง 4 เดือน ซึ่งการเลือกให้ลูกเรียนที่นี่เพราะอยู่ใกล้บ้าน เดินทางไปรับ ไปส่งได้สะดวก

ขณะที่โรงเรียนต้องดูแลความปลอดภัยมากกว่านี้ ยิ่งเป็นช่วงแข่งกันกีฬาสี ซึ่งมีการเกาะกลุ่มนักเรียนมากๆ ยิ่งต้องมีมาตรการป้องกันการเกิดเหตุร้ายไว้อย่างเข้มงวด ครูประจำสีต้องอยู่ดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องการนำอาวุธปืนเข้ามาในโรงเรียน ไม่ควรที่จะเกิดขึ้นได้เลย แม้ทางโรงเรียนจะอ้างว่ามีการตรวจสอบกระเป๋านักเรียนทุกคนอย่างละเอียด แต่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาได้อย่างไร

ส่วนการรักษาหรือการช่วยเหลือเยียวยา จนถึงขณะนี้ทางโรงเรียนก็ยังไม่ได้เข้ามาพูดคุยกับตนเลย เพราะค่าใช้จ่ายค่ารักษาค่อนข้างสูง ตนมีอาชีพค้าขายอยู่ในตลาดสด ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร และเหตุที่เกิดขึ้นก็อยู่ในความรับผิดชอบของโรงเรียน ไม่ใช่เกิดขึ้นจากลูกชายของตนเป็นต้นเหตุ จึงอยากให้ทางโรงเรียนช่วยรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย

นอกจากนี้ก็อยากฝากถามถึงคนที่นำปืนเข้ามายิงในโรงเรียนว่า ลูกชายของตนเคยไปมีเรื่องอะไรกับเขาหรือเปล่า หรือถ้าไม่เคยมีเรื่องแล้วนำปืนมายิงในโรงเรียนได้อย่างไร ไม่คิดบ้างหรือว่าตอนนั้นมีนักเรียนอยู่กันเป็นจำนวนมาก หากเกิดมีใครถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ แล้วคนยิงถ้าเป็นนักเรียนก็จะต้องหมดอนาคตด้วย

About the author

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *