โดนเข้าแล้ว ให้ออกจากราชการ ด.ต.ท่องเที่ยว แอบเก็บส่วย สั่งสอบวินัยร้ายแรง

จากกรณีที่ชุดเฉพาะกิจกรมการปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ ร่วมกันจับกุม ด.ต.ภูวเมศร์ (ขอสงวนนามสกุล) ผบ.หมู่ ส.ทท.1 กก.1 บก.ทท.3 และ นายมานัส (ขอสงวนนามสกุล) ได้ที่บริเวณลานจอดรถหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเขต อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 7 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา

ขณะที่ทั้งสองได้ขับรถยนต์มาตระเวนเก็บส่วยสถานบันเทิงในเขตจังหวัดนนทบุรี โดย ด.ต.ภูวเมศร์ ใช้รถยนต์สายตรวจตำรวจท่องเที่ยว ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ เป็นยานพาหนะในการตระเวนเก็บส่วย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดวันที่ 8 ก.ค.2565 พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า…

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว สั่งการให้ตนดำเนินการโดยเร่งด่วน เพราะเป็นการกระทำความผิดอย่างชัดเจนจนถูกจับกุมดำเนินคดี ซึ่งสร้างความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นอย่างมาก โดยเรื่องนี้จะต้องทำให้เกิดความชัดเจนเลยว่าหากตำรวจคนใดกระทำผิดกฎหมายเสียเองก็จะต้องถูกดำเนินการทั้งทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว

พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวต่อว่า จึงได้สั่งการไปยัง พล.ต.ท.สุคุณ พรหมมายน ผบช.ทท. ให้รีบดำเนินการทางวินัยในทันที โดยให้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงโดยไม่ต้องรอตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้มีคำสั่งให้ ด.ต.ภูวเมศร์ ออกจากราชการไว้ก่อนโดยเร็วที่สุด สำหรับในส่วนของการดำเนินคดีอาญานั้น

ตนได้กำชับให้ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ลงไปกำกับดูแลการสอบสวนของพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ ให้ดำเนินคดีนี้อย่างรัดกุม รวดเร็วและเป็นธรรม เพื่อให้สังคมเห็นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะไม่ปกป้องตำรวจที่กระทำผิดในลักษณะนี้อย่างแน่นอน

พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ผบ.ตร. ยังสั่งการให้ตนกำชับไปยัง ผบช.ทท. ให้ดำเนินการทางวินัยกับผู้บังคับบัญชาของ ด.ต.ภูวเมศร์ ที่บกพร่องในการปกครองดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาจนทำให้มาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ต้องมีการตรวจสอบการนำรถยนต์สายตรวจตำรวจท่องเที่ยวซึ่งเป็นรถยนต์ของทางราชการมาใช้ในการกระทำผิดนอกเขตพื้นที่รับผิดชอบของ ด.ต.ภูรเมศร์ ด้วยว่าเป็นไปโดยถูกต้องตามระเบียบหรือไม่

พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวด้วยว่า ซึ่งหากพบว่าเป็นความบกพร่องของผู้ใดก็ให้ดำเนินการทางวินัยในเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดย พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวยืนยันอย่างหนักแน่นว่าหากพบว่ามีตำรวจนายใดออกนอกแถวไปกระทำผิดในลักษณะนี้อีก จะต้องถูกดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดทุกราย

About the author

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *