กราบหัวใจหนุ่มลาว หลังสิ้นใจ บริจาคดวงตา ช่วย 2 คนไทยได้มองเห็นอีกครั้ง

วันที่ 13 ธันวาคม 2565 ที่บริเวณอาคารนิติเวช โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ นายแพทย์นิติ เหตานุรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพชรบูรณ์พร้อมด้วยคณะผู้บริหารมอบประกาศเกียรติคุณและหรีดเคารพศพศูนย์ดวงตาของสภากาชาดไทยให้แก่นายจ่อย ก้างตาลี อายุ 60 ปี ที่เสียชีวิตเนื่องจากเลือดออกในกระเพาะอาหาร

โดยญาติได้บริจาคกระจกตาทั้ง 2 ข้าง เพื่อนำไปช่วยเหลือให้ผู้ที่มีปัญหาทางสายตาสามารถมองเห็นได้ถึง 2 คน โดยมีนางรสสุคนธ์ พุฒิพงศ์พีรดา ภรรยาและนายเทวัญ ฤทธิ์ศักดิ์ ลูกชายเป็นตัวแทนรับมอบ

นางชไมพร สีทอง พยาบาลวิชาชีพ หัวหน้าศูนย์บริจาคอวัยวะโรงพยาบาลเพชรบูรณ์เปิดเผยว่าคนไข้ถูกส่งตัวมาจากโรงพยาบาลหนองไผ่ด้วยอาการเลือดออกในกระเพาะอาหาร มีภาวะเสียเลือดมาก แพทย์จึงได้ทำการรักษาอย่างเต็มที่ แต่คนไข้ไม่มีอาการตอบสนอง ญาติไม่ประสงค์ที่จะให้ปั๊มหัวใจ จึงได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ซึ่งทีมของศูนย์บริจาคอวัยวะก็ได้เข้าไปพูดคุยถึงโครงการบริจาคอวัยวะเพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้อื่น ซึ่งภรรยาและลูกชายก็ยินดีที่จะบริจาคอวัยวะทุกส่วนของผู้เสียชีวิต แต่สามารถบริจาคได้เพียงกระตกตา 2 ข้างเท่านั้น แต่ก็สามารถนำไปช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาทางสายตาที่มองไม่เห็นให้สามารถกลับมามองเห็นได้ถึง 2 ราย

นางรสสุคนธ์ พุฒิพงศ์พีรดา อายุ 54 ปี เปิดเผยว่านายจ่อย ก้างตาลี เป็นชาวลาวมาประกอบอาชีพรับจ้างหักข้าวโพดตั้งแต่อายุประมาณ 30 ปี และได้อยู่กินฉันท์สามีภรรยากับตนเองมาจนถึงปัจจุบันมีลูกชายด้วยกัน 1 คน และที่ผ่านมานายจ่อยไม่เคยกลับไปบ้านหรือติดต่อกับญาติที่ประเทศลาวเลย ยังคงทำงานรับจ้างทั่วไปอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์

ก่อนหน้านั้นนายจ่อยมีสุขภาพแข็งแรง แต่มาช่วง 2 เดือนหลังนี้จะมีอาการเจ็บป่วยบ้าง กระทั่งล่าสุดมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง จึงได้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลหนองไผ่ แต่อาการค่อนข้างหนักจึงได้ส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ซึ่งแพทย์ก็ได้ดูแลรักษาอย่างเต็มที่

แต่นายจ่อยก็ได้จากไปในที่สุด และพยาบาลก็ได้มาแจ้งโครงการบริจาคอวัยวะ ซึ่งตนและลูกเห็นว่าอวัยวะของสามีไม่สามารถใช้ได้แล้ว หากนำไปช่วยเหลือผู้อื่นได้ก็ยินดี และก็จะได้เป็นการทำบุญให้ผู้ตายเป็นครั้งสุดท้าย

นางรสสุคนธ์ พุฒิพงศ์พีรดา เปิดเผยอีกว่าเนื่องจากสามีเป็นชาวลาวจึงไม่มีสิทธิ์เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลใด ๆ จึงต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด แต่โรงพยาบาลก็ได้อนุเคราะห์ลดหย่อนแล้วส่วนหนึ่ง แต่ก็ยังคงต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท

ซึ่งโรงพยาบาลก็ได้ผ่อนผันโดยการให้ผ่อนชำระเดือนละ 500 บาทจนกว่าจะหมด ซึ่งตนก็จะพยายามหานำมาชำระให้ได้ แต่ถ้าหากมีผู้ใจบุญท่านใดจะร่วมทำบุญกับผู้ตายหรือสอบถามเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 063-1104721

About the author

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *