วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 เวลา 19.30 น. แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดต นายวีระพล รักษ์เสมอวงษ์ และจิตอาสา ได้รับแจ้งว่ามีเด็กชาย 2 คนเดินอยู่ริมถนนสาย อ.บ้านดุง-บ้านสุ่มเส้า ไม่รู้จะเดินทางไปไหนขอให้ไปตรวจสอบด้วย เพราะดูแล้วไม่น่าจะใช่เด็กเร่ร่อน จึงเดินทางไปตรวจสอบพบที่บ้านของชาวบ้าน บ.สุมเส้า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี
ทราบชื่อภายหลังคือ ด.ช.ท็อปและด.ช.ไต๊ อายุ 14 ปีและ 12 ปี ชาวบ้านนาดี ต.นาคำ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี นั่งอยู่หน้าบ้าน ทราบว่าเด็กชายทั้งสองคนกำลังจะเดินทางไป จ.ภูเก็ต ซึ่งมีระยะทาง 1,450 กม. ในมือถือกล้วย 1 ถุงและกระเป๋าเป้เสื้อผ้าเพียงใบเดียว จากการสอบถามน้องท็อปและน้องไต๊บอกว่าพากันเดินเท้ามาจากบ้านหวังจะไปหาพี่สาว และน้องกัปตัน ซึ่งเป็นลูกของพี่สาวที่ จ.ภูเก็ต เพราะคิดถึง
หลังจากพี่สาวเดินทางมาเยี่ยมบ้าน และเดินทางกลับไปทำงานเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา และพวกตนเหลือเงินติดตัวเพียง 10 บาท แต่อยากจะไปด้วยใจแม้จะไม่รู้ระยะทางว่ามันไกลแค่ไหนและ จ.ภูเก็ต อยู่แห่งหนใดแต่ก็จะค่อยๆ พากันเดินเท้าไปเรื่อยๆ คาดว่าจะใช้เวลาเดินประมาณ 1 สัปดาห์ (ความคิดของเด็ก)
พอดีมาเจอชาวบ้านสอบถาม พวกตนเองกลัวถูกจับจึงวิ่งหลบในพงหญ้าข้างทาง สุดท้ายชาวบ้านมาหาอีกรอบจึงออกมาแล้วบอกว่าจะไป จ.ภูเก็ต สร้างความตกใจให้กับชาวบ้านไม่น่าเชื่อว่าเด็กน้อยสองคนจะเดินทางไปถึง จ.ภูเก็ตเพราะระยะทางมันไกลเป็นพันกิโลเมตร นายวีระพล และชาวบ้านที่พบได้พูดจาเกลี้ยกล่อมจนเด็กชายทั้ง 2 คนล้มเลิกความตั้งใจ และยอมกลับบ้านไปหาตา และยาย
ขณะเดินทางขึ้นรถกลับบ้าน และกลับสู่อ้อมอกตา และยาย น้องท็อปบอกว่า พ่อกับะแม่ของตนเองทำงานอยู่ที่ จ.พังงา ตอนพากันเดินเท้าออกจากบ้านมาคิดอย่างเดียวคือพวกเราคิดถึงน้อง และอยากไปขับเรือเท่านั้น พวกตนอยู่ที่บ้านกับตา และยายไม่มีใครทำร้ายหรือรังแก และต่อไปนี้สัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก
เมื่อถึงบ้านตาและยายได้ว่ากล่าวตักเตือนและสั่งสอนหลานชายไม่ให้ทำเช่นนี้อีกเพราะเป็นห่วง หากเกิดอันตรายหรือเรื่องไม่ดีขึ้นจะให้ตาและยายทำอย่างไร ก่อนขอบคุณจิตอาสาที่พามาส่งบ้านแต่อย่างไรก็ตามหากน้องท็อป และน้องไต๊อยากจะไปหาน้องที่จ.ภูเก็ต นายวีระพลและจิตอาสาที่เห็นความรักอันบริสุทธิ์ของเด็กชายทั้งสองคนพี่น้องก็พร้อมอาสาพาไปส่ง หากทางผู้ปกครองของเด็กอนุญาต อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ผู้ปกครองได้พากลับบ้านแล้ว