คงสุดจะทนแล้วจริงๆ พ่อเฒ่าวัย 80 ขึ้นป้ายขอบคุณ หลังลูกชาย 2 คน ถูกตัดสินจำคุก 33 ปี

วันที่ 28 ก.พ. 2566 ณ.บ้านนิคมหนองตาล พบกับ 2 พ่อลูกคือ นายอ้วย กาประดิษฐ์ อายุ 80 ปี และ นายปรีดา กาประดิษฐ์ อายุ 53 ปี ลูกชายคนที่ 2 ของ นายอ้วย พร้อมเปิดเผยที่มาของป้ายว่า ศาล จ.อุดรธานีได้ตัดสินจำคุกน้องชาย 2 คนในข้อหาพยายามฆ่าพ่อ ทั้ง 2 คน จำคุก 33 ปี และ 25 ปี

โดยศาลตัดสินเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา โดยสาเหตุที่จำคุก เนื่องจากทั้ง 2 คนบุกเข้ามาในบ้าน และพยายามฆ่าพ่อตัวเอง เนื่องจากพ่อยังไม่แบ่งที่นาให้ 20 ไร่ ทำให้ลูกทั้ง 2 คนแค้นพ่อเป็นอย่างมาก แม้ลูกจะถูกจำคุกแต่ฝั่งพ่อยังไม่พอใจ เมื่อรู้ว่าลูกสะใภ้กำลังถมที่เพิ่ม ทั้งๆ ที่พ่อปู่ยังไม่แบ่งให้

นายปรีดา เปิดเผยว่า… พ่อของตนมีลูกทั้งหมด 4 คน คนโตชื่อสำรวย ตนเป็นคนที่ 2 และมีน้องอีก 2 คือ คือ นายบรรเลง และ บุญจันทร์ เรื่องของเรื่องคือ พี่น้องรวม 3 คน อยากได้ที่ดินของพ่อ อยากให้พ่อแบ่งให้ 20 ไร่ แต่พ่อยังไม่แบ่งให้ โดยพ่อบอกว่ายังไม่ตา ย และยังไม่ถึงเวลา

แต่ทั้ง 3 คนก็ยังอยากจะได้อยู่ ทำให้มีปัญหาศึกสายเลือดเรื้อรังมาตั้งแต่ปี 60 มีญาติทางฝั่งแม่มาหาพ่อเพื่อให้แบ่งที่นาให้ลูกๆ ทุกคน แต่พ่อไม่ยอม ทางญาติเลยขู่ว่าถ้าแม่ตายจะแบ่งที่นาให้หลานเท่าๆ กันนั่นคือฝั่งญาติแม่พูดเอาไว้

นายปรีดา ลูกชาย ที่อยู่ดูแลพ่อ ได้กล่าวสำหรับที่ดินแปลงนี้ เป็นที่ดินที่พ่อ ซื้อจากขาวบ้านในราคา 8,000 บาท เงินได้มาจากการที่พ่อปลูกปอ ขายปอ ซึ่งตอนนั้น ลูกๆ ทุกคนยังไม่เกิด พ่อปั่นสามล้อรับจ้าง พ่ออ้วย กล่าวต่อไปว่า… มีข้อกล่าวหาจากญาติๆ ฝ่ายเมียของตนว่า ตนไปติดพันผู้หญิงรุ่นลูก

ผมอยากให้เอาหลักฐานมา บอกมาว่า ใครคือคนที่ผมไปติดพัน เขาเป็นคนที่ใหน ลำพังแค่จะกินทุกวันนี้ ยังลำบาก ผมดูแลเมียผมซึ่งป่วยติดเตียงมากว่า 40 ปี มีลูกชายมาช่วยดูแลอีกคน มาอยู่เป็นเพื่อน ซึ่งอยากให้นักข่าวดูสภาพความเป็นอยู่ของผม ในความเป็นจริง ที่ดินแปลงนี้ ผมหามาด้วยน้ำพักน้ำแรง ลูกๆ ยังไม่เกิด และไม่มีการซื้อขายให้ใคร หรือไปเอาเงินจากใครมา

ต่อมา ได้เดินทางไปหาลูกสะใภ้ ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กัน และลูกสะใภ้กำลังดูแลการถมสระอยู่ได้กล่าวว่า ตนไม่รู้เรื่องอะไร มากมาย เนื่องจาก ตนอยู่ที่อุบลไปดูแลพ่อแม่ที่ป่วย และที่กลับมา ก็เพื่อมาให้กำลังใจสามีเพื่อรับฟังคำตัดสินเมื่อ วันที่ 22 ที่ผ่านมา และเมื่อศาลตัดสินแล้ว จำคุก 33 ปี ตนก็จะหาหลักทรัพย์เพื่อยื่นประกันตัวสามี และยื่นอุธรณ์

ส่วนเรื่องการถมที่นั้น ตนก็ไม่ทราบ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร มีแต่สามีกับผู้รับถมสระที่ได้ตกลงกันไว้ ส่วนเรื่องอื่นๆ ให้ไปติดต่อสอบถาม ผู้ใหญ่บ้าน ต้องให้ความเป็นธรรมกับหนู ผู้สื่อข่าว เดินทางไปบ้านงานทำบุญแจกข้าวเพื่อพบผู้ใหญ่บ้าน พบแต่เพียงญาติๆ (ญาติข้างแม่)

เนื่องจากผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 14 ได้เดินทางไปอุดรติดธุระไม่สามารถมาให้ข้อมูลได้ ซึ่งญาติข้างแม่ได้บอกว่า สงสารคนที่ติดคุก 33 ปี เขาเป็นคนดีสร้างบ้านให้พ่อกับแม่ และพ่อได้เอาเงินจากลูก เมื่อผู้สื่อข่าวถามขอดูหลักฐาน การซื้อขายญาติๆ ก็ตอบไม่ได้

About the author

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *