สร้างกว่า 50 ล้าน กลับถูกปล่อยร้าง พระปางนาคปรก ใหญ่สุดในไทย ไร้การดูแล

วันที่ 22 ก.พ. 2566 นายณรงค์ชัย ภักดีณรงค์ชัย ประธานชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดปราจีนบุรี โพสต์ภาพขณะลงพื้นที่พร้อมคณะกรรมการชมรมฯ ติดตามสังเกตการณ์สถานที่ตั้งองค์พระพุทธทวารวดีศรีปราจีน พระนาคปรกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย

ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณ วนพุทธอุทยานน้ำตกเขาอีโต้ ต.เนินหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี มีขนาดหน้าตักกว้าง14.9 เมตรสูง 34 เมตร สภาพองค์พระชำรุดทรุดโทรมไม่มีการดูแล รวมถึงสถานที่โดยรอบและด้านล่างใต้องค์พระที่ก่อสร้างจากพลังศรัทธาของพุทธศาสนิกชน รวมมากกว่า 50 ล้านบาท ทรุดโทรม ผุพังมองเห็นเด่นชัด

โดยระบุข้อความว่า น.ส.รวีวรรณ ยัญญจันทร์ หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์ป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดปราจีนบุรี ร่วมกับ นายณรงค์ชัย ภักดีณรงค์ชัย ประธานชมรมSTRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดปราจีนบุรี และคณะกรรมการชมรมฯ

ลงพื้นที่ติดตามสังเกตการณ์สถานที่ตั้งองค์พระพุทธทวารวดีศรีปราจีน พระนาคปรกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณ วนพุทธอุทยานน้ำตกเขาอีโต้ ต.เนินหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี

ซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้ได้สร้างขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจของส่วนราชการและพี่น้องพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดปราจีนบุรี และพี่น้องพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ เพื่อเฉลิมพระเกรียติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ (พระนามขณะนั้น) ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 60 พรรษาในปี พ.ศ.2558

ขณะนี้ได้ผ่านระยะเวลามา 8 ปีแล้ว และปัจจุบันปล่อยให้องค์พระและอาคารสถานที่รกร้างทรุดโทรมเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยไม่มีหน่วยงานเข้ามารับผิดชอบดูแล

และทางสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดปราจีนบุรี จะได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบสถานที่นี้ ได้หาแนวทางและวิธีการในการเข้ามาปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้องค์พระพุทธทวาราวดีศรีปราจีนได้เป็นที่เคารพกราบไหว้และเป็นศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องปราจีนบุรีต่อไป

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ติดต่อพูดคุยกับ กับ นายณรงค์ชัย ก็ได้รับการเปิดเผยว่า ได้รับการร้องทุกข์จากชาวปราจีนบุรี ให้ช่วยติดตามดูองค์พระพุทธทวาราวดีศรีปราจีน เพื่อให้คงอยู่เป็นที่สักการะ เป็นแลนด์มาร์ค ที่ท่องเที่ยวของจังหวัดปราจีนบุรี

จึงพร้อมด้วยสำนักงาน ปปช.ปราจีนบุรี – คณะกรรมการสตรอง พร้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ขึ้นไป-ติดตม พบสภาพพื้นที่โดยรอบบริเวณนั้น เดิมอยู่ในความรับผิดชอบของป่าไม้ แต่ภายหลังถูกขอใช้พื้นที่ และทางป่าไม้ไม่มีเจ้าหน้าที่เพียงพอในการดูแล

พบว่าสภาพองค์พระปางนาคปรกใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เสื่อมโทรม ด้านรอบนอกถูกปล่อยรกร้าง ด้านใต้องค์พระ สถานที่รกร้างพังชำรุดเสียหายเช่นกัน อาทิ ฟ้าเพดาน พื้น แอร์ต่าง ๆ มากกว่า 10 เครื่องชำรุดเสียหาย

ทราบว่ามูลค่าในการก่อสร้างใช้เงินมากกว่า 50 ล้านบาท จึงเป็นปัญหาว่าต่อไปใครจะดูแล เป็นแลนด์มาร์ค – แดนธรรมมะที่พึ่งทางใจของชาวปราจีนบุรีได้ ซึ่งไม่ได้มาจับผิด หรือแจ้งกล่าวโทษผู้ใด แต่ต้องการให้มาช่วยกัน

About the author

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *