คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองหนัก 5 บาท ร้านทองห่างโรงพักแค่ 200 เมตร หนีข้ามฝั่งเมียนมาสบาย

วันที่ 26 พ.ย. 2565 เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.พิพัฒน์ นาระเดช ผกก.สภ.แม่สาย ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายชิงสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท ที่ห้างทองเสรีภัณฑ์ ตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธินขาออกจากแม่สาย ห่างจากโรงพักเพียงแค่ประมาณ 200 เมตร

หลังจากที่ ร้อยตำรวจเอก สมเกียรติ ชัยตาล พนักงานสอบสวนเวร สภ.แม่สาย จ.เชียงราย รับแจ้งเหตุ ได้ประสานงานกับ พ.ต.ท.รัชพล สะสม สว.สส.สภ.แม่สาย พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบ นางโชสิตา หล่อธนโชติ ผู้จัดการห้างทองฯ เล่าว่า…

เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. มีลูกค้าเป็นชาย ใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ และสวมแมส มาที่ร้านแล้วบอกว่าอยากดูสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท พอบอกราคาไปลูกค้าบอกว่าแพง ขอไปถามเมียก่อน เมื่อกลับมาอีกครั้งกลับมาบอกว่าเมียอยากได้ขนาดน้ำหนัก 5 บาท เมื่อตกลงซื้อขายแล้วคนร้านได้หยิบทองแล้ววิ่งออกจากร้านขึ้นรถรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

ปกติผู้ค้าทองมีความระมัดระวังกันอยู่แล้ว ช่วงนี้เป็นช่วงของการแข่งขันฟุตบอลโลก ซึ่งเมืองไทยมีข่าวคนติดหนี้พนันบอลกันเยอะ โดยลูกค้ารายนี้จริงๆ ก็ไม่ค่อยไว้วางใจ จึงพยายามไม่ให้ลูกค้าได้จับทองทั้งเส้นโดยตรง แต่ที่ยังพลาดจนถูกคนร้ายชิงสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาทไปได้ 1 เส้นเป็นเพราะได้มีการเจรจาตกลงซื้อกันเรียบร้อยแล้ว จึงเผลอวางและคนร้ายก็หยิบทองวิ่งออกไปทันที ผู้จัดการร้านทองกล่าว

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของห้างทองฯ พบคนร้ายเป็นชายผมเกรียน อายุประมาณ 30 ปี สวมเสื้อยืดสีดำ สวมกางเกงยีนส์ ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าสีแดงเป็นพาหนะ จึงได้เก็บรอยนิ้วมือแฝงภายในร้านที่คาดว่าจะเป็นของคนร้าย ซึ่งเจ้าหน้าที่พบว่าคนร้ายได้เข้าออกห้างทอง 2 รอบ รอบแรกไม่สวมหมวก รอบที่ 2 สวมหมวก คาดว่าเป็นการดูลาดเลาและอำพรางตัว

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้กระจายกำลังกันออกไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากห้างร้านที่อยู่ข้างเคียง และกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ เพื่อตรวจสอบเส้นทางหลบหนี เจ้าหน้าที่ทหารได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของทหารแล้วพบว่า หลังจากลงมือก่อเหตุคนร้ายรายนี้ได้หนีข้ามน้ำสายเข้าไปที่ฝั่งจังหวัดท่าขีเหล็ก ประเทศเมียนมา

โดยทิ้งรถคันที่ใช้ก่อเหตุไว้ริมฝั่งแม่น้ำสายบริเวณใกล้กับโครงการชลประทานแม่สาย แต่อย่างไรก็ตามตำรวจชุดสืบสวนทราบแล้วว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร โดยจะได้ประสานกับชุดประสานงานชายแดนไทย-เมียนมา เพื่อขอความร่วมมือตำรวจเมียนมาให้ช่วยติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินดคีต่อไป

About the author

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *