จากกรณีของคุณตาสมคิด บุญชื่น วีย 92 ปี ได้ออกตามหาคุณยายธิดา คนรักเก่าครั้งสมัยยังเป็นหนุ่มสาว ล่าสุด ก็ยังไม่ได้พบกับคุณยาย และยังไม่ทราบว่าคุณยายยังมีชีวิตอยู่ไหม คุณตาเพียงแค่อยากจะพบหน้าคุณยายสักครั้ง ภาพจำยังชัดเจนเหมือนเดิมทุกอย่าง ยังไม่ลืม ตา 92 ปีอยากเจอหน้าแฟนเก่าที่ไม่ได้พบหน้ากัน 70 ปีเพียงขอถามไถ่ในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม มีเรื่องฮือฮาในโลกออนไลน์กรณีนายวินิจ บุญชื่นวัย 92 ปีที่ได้เดินทางจากกรุงเทพมายังนครราชสีมาเพื่อตามหาแฟนเก่าที่ไม่ได้เจอหน้ากัน 70 ปี ซึ่งแฟนเก่ามีชื่อว่า ธิดา บุญยะสาตะ อายุประมาน 88 ปี บ้านอยู่แถวถนนจอมสุรางค์ อ.เมือง
สาเหตุที่ออกตามหาเพราะอยากทราบว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างไรบ้างในปัจจุบันนี้ ซึ่งมีคนในโลกออนไลน์แจ้งว่าธิดาได้ย้ายไปอยู่ที่จ.อุบลราชธานี ทำให้คุณตาวัย 92 ปี กลับมาตั้งหลักที่กรุงเทพก่อนและเตรียมประสานหาตัวคุณยายคนรักเก่าอีกครั้งแล้ว

ทั้งนี้คุณตายังเก็บภาพถ่ายของคุณยายไว้ โดนเล่าว่าทั้งสองคบกันในปี2492 ที่กรุงเทพพระมหานคร ครองรักกัน5-6ปีก่อนจะเลิกราจาก โดยถือเป็นรักแรกของกันและกัน โดยก่อนจะเลิกกันนั้น คุณยายได้ย้ายไปเรียนหนังสือที่โคราชทำให้ต้องแยกจากพลัดพราก มีเพียงจดหมายและรูปถ่ายส่งให้กันและกัน จนปลายปี2497 คุณตาเขียนจดหมายมาบอกว่าจะแต่งงานแล้ว ทำให้อีกฝ่ายเขียนจดหมายฉบับสุดท้ายตอบมาว่า… พรใดที่นิตย์ปรารถนาขอพรนั้นประสมแด่นิตย์ตลอดไป
แต่ความจริงคุณตาโกหกไม่ได้จะแต่งงาน เพราะด้วยระยะทางที่ห่างไกลจึงคิดว่าความรักคงเป็นไปไม่ได้จึงตัดสินใจเลือกจบความสัมพันธ์แบบนี้และหากได้พบหน้ากันอีกครั้งก็อยากจะขอโทษอีกฝ่ายที่ทำแบบนี้

หลังจากเลิกรากันไป ก็ได้ขาดการติดต่อกันไปนานมาก กระทั่งปี 2503 คุณตาได้เห็นคุณยายธิดามาที่กรุงเทพกับคุณแม่พร้อมกับชายหนุ่มข้างกาย คุณตาก็ได้แต่แอบมองเดินตามเหมือนเส้นคู่ขนานเพราะไม่กล้าที่จะเข้าไปทักหรือพูดคุยและนั่นคือภาพความทรงจำครั้งสุดท้ายที่เห็นหน้าของคุณยายธิดา 61 ปีผ่านไป

ทั้งนี้ชายวัย 92 ปียังคงจำรายละเอียดของคุณยายธิดาได้ ไม่ว่าจะชอบกินอาหารอะไร ไอศกรีมร้านไหน ภาพยนตร์เรื่องแรกที่ไปชม แถมยังมีรูปถ่ายๆ ทุกรูป ผ้าเช็ดหน้าที่คุณยายธิดาปักให้ ยังคงเก็บไว้เสมอ พร้อมยอมรับว่าคิดถึงหญิงสาวตลอดเวลา แต่สุดท้ายทุกคนต่างเลือกเส้นทางของตัวเอง ต่างมีครอบครัวของตัวเอง ก็ขอให้คุณยายมีความสุขมากๆ

โดยการออกตามหาครั้งนี้ เพียงเพราะอยากรู้ว่าอีกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เป็นอย่างไรบ้าง เป็นการสอบถามในฐานะเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น
ที่มา: เฟซบุ๊กเพจ “The Tempo New”