เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2564 จากกรณีที่ นายยงยุทธ ลิ่มสืบเชื้อ อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นคน ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยที่คุณลุงเป็นผู้ที่พบ “อำพันทะเล” หรือที่เรียกกันว่า “อ้วกวาฬ” ทั้งนี้คุณลุงยงยุทธ ได้เปิดเผยว่าเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 23 กันยายน ขณะที่ตนวิ่งออกกำลังกายที่บริเวณหาดไม้ขาว ได้พบเห็นก้อนวัตถุกลมขนาดใหญ่วางบนพื้นทราย ณ.บริเวณหน้าโรงแรมไม้ขาวครีม
เมื่อเข้าไปดูและใช้นิ้วจิ้ม แล้วดมกลิ่นก็พบว่ามีกลิ่นคาว ซึ่งเป็นลักษณะคล้ายอ้วกวาฬสีเหลืองทองที่เคยเห็นในข่าวทีวี จึงรีบนำก้อนดังกล่าวนำกลับไปยังที่พัก และก็ศึกษาดูคาดว่าน่าจะเป็นอ้วกวาฬ หรืออำพันทะเลที่หายาก ซึ่งมีสามชนิดคือ สีดำ, สีขาว, และสีเหลือง หลังจากนี้ตนจะนำส่งศูนย์วิจัยทางทะเลและชายฝั่งชีวทางทะเลภูเก็ตเพื่อตรวจสอบ หากเป็นอำพันจริงก็จะนำขายตามราคาที่เหมาะสม
ขณะที่ก้อนไขมันที่นายยงยุทธ พบนั้นมีน้ำหนักถึง 19.5 กก. ซึ่งหากเป็นอำพันทะเล หรืออ๊วกวาฬจริงจะมีมูลค่าถึงกิโลกรัมละ 1.5 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าสำหรับน้ำหนักอำพันก้อนนี้มีมูลค่ากว่า 30 ล้านบาทเลยทีเดียว สำหรับอำพันทะเลจากข้อมูลที่ค้นพบเป็นสารที่ได้จากการสำรอกหรือการขับถ่ายของวาฬหัวทุย หรือวาฬสเปิร์ม (sperm whale)
มีลักษณะเป็นก้อนไขมันคล้ายขี้ผึ้ง มีหลายเฉดสีตั้งแต่สีเทา หรือสีดำ ไปจนถึงสีโทนอ่อนอย่างสีส้ม หรือสีขาวคล้ายหินอ่อน อำพันทะเลถือเป็นของหายากที่มีราคาแพง ในประวัติศาสตร์มีการนำอำพันทะเลไปใช้ในการทำยารักษาโรค เครื่องหอม และยากระตุ้นกำหนัด แต่ปัจจุบันมักถูกนำไปใช้ในการผลิตน้ำหอม เพราะมีคุณสมบัติช่วยให้น้ำหอมมีกลิ่นหอมคงทนนาน
การจะหาอำพันทะเลนั้น มักทำโดยการรอให้ลอยมาติดตามชายฝั่ง หรือล่องเรือออกไปหากลางทะเล รวมทั้งการออกล่าวาฬ แล้วผ่าท้องหาในลำไส้ซึ่งถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในหลายประเทศ ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า มีวาฬหัวทุยเพียง 1-5% เท่านั้นที่มีอำพันทะเล โดยอำพันทะเลคุณภาพดีมักมีราคาขายอยู่กิโลกรัมละ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.5 ล้านบาท) นั้นเอง